ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
ร่วมสัมมนา “การเตรียมพร้อมรับมืออนาคตที่ไม่แน่นอน: การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีในโลกที่ผันผวน”

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 บริษัท คอรินเธียนส์ แคปิตอล แมเนจเมนท์ และ ไซซ์ แคปิตอล ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “การเตรียมพร้อมรับมืออนาคตที่ไม่แน่นอน: การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีในโลกที่ผันผวน” ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ (กรุณายืนยันชื่อสถานที่จัดงานอีกครั้ง)
งานสัมมนานี้เป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางธุรกิจและสังคมโลกในช่วงปี พ.ศ. 2569-2573
งานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่
• คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย
• รศ.ดร. จักรกฤษณ์ สุทธากร ผู้อำนวยการก่อตั้ง BART LAB มหาวิทยาลัยมหิดล
• คุณมาร์ค ไซซ์ หุ้นส่วนผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Syz Capital ที่มาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ไม่สัมพันธ์กัน เช่น สินทรัพย์ทางกฎหมายและสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมทั้งนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการจัดสรรสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ (S.A.A.) และวิธีที่ชาวยุโรปเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนที่คาดการณ์ไว้ในปี 2569-2573
งานสัมมนานี้จัดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ มูลนิธิฮัมเบิล ฮิลส์ บริษัท ไพรม์ โกลบอล โซลูชั่นส์ จำกัด และบริษัท ทาสโก้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง นวัตกรรม การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม สังคม และอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศไทย






On September 16, 2025, Corinthians Capital Management and Syz Capital jointly hosted a seminar entitled “Preparing for an Uncertain Future: Economic, Environmental, and Technological Shifts in a Turbulent World” at the Arnoma Grand Hotel, Bangkok (please reconfirm the venue name).
The seminar provided a platform to exchange perspectives on the economic, environmental, and technological transformations that are expected to shape the global business and social landscape during the period 2026–2030.
The event was honored by the presence of three distinguished speakers:
• Mr. Weerasak Kowsurat — Chairman of the Bangkok Breath Council and former Minister of Tourism and Sports of Thailand.
• Assoc. Prof. Dr. Jakkrit Sutthakorn — Founding Director of BART LAB, Mahidol University.
• Mr. Marc Syz — Managing Partner & Chief Executive Officer of Syz Capital, who shared insights on uncorrelated strategies such as legal and digital assets, while also presenting perspectives on Strategic Asset Allocation (S.A.A.) and how Europeans prepare for the volatility anticipated in 2026–2030.
This seminar was made possible through the collaboration of leading partners, including the Humble Hills Foundation, Prime Global Solutions Company Limited, and Tasco International Company Limited, underscoring a shared commitment to strong partnerships, innovation, effective management, and the creation of lasting value for the environment, society, and Thailand’s sustainable future.
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
เชิญถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดเพชรบูรณ์

วันนี้ (18 ก.ย. 2568) เวลา 8.00 น. ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอพิชัย ถนนไชยบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดตั้งตามพระดำริของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทานมอบให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษา ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการมูลนิธิฯ นางนฤมล ล้อมทอง รองเหรัญญิกมูลนิธิฯ นายเอสนะ ชินชำนาญ ผู้อำนวยการกองงานในพระองค์พระเจ้าวรวงศ์เธอฯ กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พร้อมด้วย นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายอำเภอพิชัย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมในพิธีเชิญถุงยังชีพพระราชทานถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 75 รูป และมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอพิชัย อำเภอทองแสนขัน และอำเภอตรอน จำนวน 1,900 ถุง
โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุโซนร้อน "หนองฟ้า" เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม - ถึงวันที่ 1 กันยายน 2568 ส่งผลให้มีฝนตกหนัก และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำปาไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่อำเภอพิชัย อำเภอทองแสนขัน และอำเภอตรอน รวม 3 อำเภอ 20 ตำบล 1,522 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,197 ครัวเรือน
และในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหล่มสัก ตำบลหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญถุงยังชีพพระราชทาน มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์
โดยมี นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีรับมอบถุงยังชีพพระราชทาน พร้อมด้วย นายอำเภอหล่มสัก หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา และประชาชน เข้าร่วมพิธี ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุ จำนวน 350 ถุง และมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 7,000 ถุง ให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากอิทธิพลของพายุ “หนองฟ้า” ส่งผลให้คืนวันที่ 30 สิงหาคม 2568 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก จากลำห้วยสะดวงใหญ่ ตำบลท่าอิบุญ และมวลน้ำจำนวนมากจากตำบลตาดกลอย อำเภอหล่มเก่า ไหลลงมาสบทบทำให้น้ำในแม่น้ำป่าสักไหลเอ่อล้นตลิ่งตลอดเส้นทาง เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ วัด ถนน และพื้นที่การเกษตร ในหลายตำบลของอำเภอหล่มสัก รวมทั้งสิ้น 19 ตำบล 137 หมู่บ้าน 11 ชุมชน 12,466 ครัวเรือน ผู้ประสบภัย 28,098 ราย
"มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย” เป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งตามพระดำริของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงให้ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกันเกื้อหนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากจากอุทกภัยและภัยพิบัติที่รุนแรง คือการร่วมกัน ระดมองค์ความรู้ นวัตกรรม กำลังแรงกาย ทุนทรัพย์ และ จิตสาธารณะเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างครบวงจร รวมทั้ง การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอ โดยมุ่งเน้นการประทังชีวิตและการฟื้นฟูสภาพจิตใจ
ตลอดระยะเวลา 30 ปี มูลนิธิฯ ปฏิบัติงานและยึดหลักภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน“





กทม. จับมือเครือข่ายเปิดเวที “นักสืบฝุ่น The Series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่ 4

กทม. จับมือเครือข่ายเปิดเวที “นักสืบฝุ่น The Series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่ 4 ร่วมค้นหาคำตอบ “ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน” (17 ก.ย. 68) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดกิจกรรม “นักสืบฝุ่น The Series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่ 4 ค้นหาคำตอบ “ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน” โดยมี นายทศพล สุภารี รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ชั้น 2 อาคาร วช. 1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เขตบางเขน
ที่ปรึกษาฯ พรพรหม กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ เราจะได้เรียนรู้ผลกระทบจากภาคเกษตรและการเผาในที่โล่งต่อ PM2.5 ในกรุงเทพฯ โดยมีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อสำคัญ อาทิ การวิเคราะห์ การเคลื่อนที่ของฝุ่นข้ามแดนเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ความสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาลเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าว อ้อย ข้าวโพด กับการเผาในที่โล่ง รวมถึงอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลส่งผลต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อย่างไร นอกจากนี้จะได้รู้ถึงผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมด้วย เวลาที่พูดถึงฝุ่น PM2.5 หลายคนมักจะนึกถึงรถยนต์ แต่แหล่งที่มีความสำคัญอีกแหล่ง ซึ่งเป็นหัวข้อการนำเสนอในวันนี้ คือภาคอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง ที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อคนกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เว็บไซต์ ราชกิจจาณุเบกษา ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดให้ท้องที่เขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) "เขตควบคุมมลพิษ" พ.ศ. 2568 เพื่อเพิ่มอำนาจและความสามารถของกรุงเทพฯ ในการจัดการและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 มากขึ้น ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะสถานประกอบการที่ใช้หม้อไอน้ำในการผลิต สำหรับการเผาในที่โล่งมาจากส่วนใด เพื่อจัดการแก้ไขปัญหา และหวังว่าการจัดเสวนาในวันนี้จะจุดประกายความร่วมมือ ที่ช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ ปราศจากฝุ่น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนกรุงเทพฯ
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (Hub of Talents on Air Pollution and Climate, HTAPC) ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) Greenpeace Thailand และ สภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร (Breathe Bangkok) จัดกิจกรรม “นักสืบฝุ่น The Series” ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ในการศึกษาต้นตอของฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ สำหรับใช้ประกอบการพิจารณา กำหนดมาตรการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบ ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
สำหรับกิจกรรมครั้งที่ 4 เป็นการเปิดเวทีเสวนาให้นักวิชาการ นักวิจัย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับ มลพิษทางอากาศ สร้างการตระหนักรู้ต่อแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ทั้งจากภาคเกษตรกรรม การเผาในที่โล่ง และอุตสาหกรรม พร้อมร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษ ที่เป็นรูปธรรม ทั้งในเชิงนโยบาย การกำกับดูแล และความร่วมมืออย่างยั่งยืน ในหัวข้อ ฝุ่นข้ามแดน และผลกระทบต่อกรุงเทพฯ บทบาทการเผาในที่โล่งภาคการเกษตร ผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมต่อคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น จากนั้นเป็นการเปิดเวทีห้องสืบฝุ่น The series “ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน” แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นการนำเสนอผลกระทบจากภาคเกษตรและการเผาในที่โล่งต่อ PM2.5 ใน กทม. ประกอบด้วย 4 หัวข้อ ดังนี้ 1. ฝุ่นข้ามแดนสู่ กทม. และการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของฝุ่น PM2.5 โดย รศ.ดร.สาวิตรี ภารีเวทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 2. พื้นที่เผาและการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (ข้าว อ้อย ข้าวโพด) ผศ.พ.ท.ดร.สรวิศ สุภเวชย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3. อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลกับปัญหาฝุ่น PM2.5 โดย ดร.เจน ชาญณรงค์ สภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร และ 4. การเคลื่อนตัวของฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยรศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และช่วงที่ 2 ผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรมต่อ PM2.5 ใน กทม. ประกอบด้วย 3 หัวข้อ ดังนี้ 1. จากโรงงานสู่ฟ้าเมืองกรุง: มลพิษอุตสาหกรรมท่ามกลางความเป็นเมือง ความท้าทายบนเส้นทางสู่เมืองสีเขียวอย่างยั่งยืน โดย ผศ.ดร.อัจฉริยา สุรยะวงศ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. PM2.5 จากโรงไฟฟ้าแก๊สกับผลกระทบต่อประชาชนใน กทม. และปริมณฑล โดยคุณอัญชลี พัฒนวัฒนากุล กรีนพีช ประเทศไทย และ3. กรณีตัวอย่าง “การเก็บตัวอย่าง PM2.5 ใน จ.สมุทรสาคร ที่ส่งผลต่อความรุนแรงของปัญหา PM2.5 ใน กทม. โดยคุณฐิติกร บุญทองใหม่ มูลนิธิบูรณะนิเวศ
ทั้งนี้ กิจกรรม “นักสืบฝุ่น The Series” กำหนดจัดขึ้น 7 ครั้ง ระหว่างเดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน 2568 เพื่อเปิดเวทีสาธารณะในการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยทุกครั้ง จะสรุปสิ่งที่ได้จากการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการในการจัดการฝุ่นเมืองที่เหมาะสมกับบริบทของกรุงเทพมหานคร และเตรียมรับมือกับวิกฤตฝุ่นในช่วงปลายปีต่อไป โดยกำหนดจัดอีก 3 ครั้ง ดังนี้
- ครั้งที่ 5 วันที่ 3 ต.ค. 68 เวลา 10.00 - 12.30 น. สืบจากฝุ่น เปิดโปงความจริงของเมืองจากฝุ่นที่มองไม่เห็น ร่วมเจาะฝุ่นเคมีที่เกิดจากกระบวนการในอากาศ ณ ห้องอเนกประสงค์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
- ครั้งที่ 6 วันที่ 3 ต.ค. 68 เวลา 14.00 - 16.30 น. เข้าใจฝุ่นเข้าใจเมือง ออกแบบให้ตรงจุด สำรวจข้อสงสัย เพื่อมาตรการที่ใช่จริง สืบเบื้องหลังฝุ่นจากการก่อสร้างและโครงสร้างเมือง ณ ห้องอเนกประสงค์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
- ครั้งที่ 7 วันที่ 12 พ.ย. 68 สู่เป้าหมายเมืองที่หายใจได้ ยกระดับนโยบายบนฐานข้อมูล สู้มาตรการที่ตรงจุดและยั่งยืน สรุปบทเรียนจากการลงมือและสืบฝุ่นในทุกมิติ
#สิ่งแวดล้อมดี #นักสืบฝุ่น


บรรยายพิเศษในหัวข้อ "วิเคราะธรรมาภิบาลสากลในหลายมิติ"

15 กันยายน 2568 ดร.ถวิลวดี บุรีกุล และคุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ "วิเคราะธรรมาภิบาลสากลในหลายมิติ" ในหลักสูตรประกาศนียบัตร ธรรมาภิบาล ผู้บริหารระดับกลาง ที่สถาบันพระปกเกล้า

สถาบันพระปกเกล้าเชิญไปเป็น commentator

สถาบันพระปกเกล้าเชิญไปเป็น commentator การนำเสนองานโครงงานศึกษาวิจัยปฏิบัติการ ของคณะนักศึกษาหลักสูตร ปปร. จำนวน5กลุ่ม ตลอดทั้งเช้า แล้วต่ออีก 5 กลุ่มช่วงบ่าย วานนี้เต็มทั้งวันเลยครับ ได้มีโอกาสกราบคาราวะคณะอาจารย์ที่ปรึกษาของแต่ละกลุ่ม ล้วนเป็นสุดยอดฝีมือแห่งวงการวิชาการทั้งนั้น รู้สึกอบอุ่นมากครับ





