มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สภากาชาดไทย เข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

วันนี้ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 น. ณ จุดประสานงานปากทางเข้าวัดปราสาท ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการและเลขาธิการมูลอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สภากาชาดไทย พร้อมเจ้าหน้าที่และเครือข่ายมูลนิธิฯ เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์พนังกั้นน้ำแตก ส่งผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันในอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี มอบอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน จำนวน 9,000 ชุด ให้แก่ นายอำเภออินทร์บุรี เพื่อนำไปมอบให้กับชาวบ้าน หมู่ 5 หมู่ 4 และหมู่ 3 ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

ในเวลาต่อมาคณะมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิสยามร่วมใจ และนายอำเภออินทร์บุรี ลงพื้นที่หมู่ 5 ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี มอบอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย

สำหรับในบางจุดที่มีน้ำท่วมขังสูงและมวลน้ำเชี่ยว ทีมอาสาเจ็ตสกีของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย เครือข่ายมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้นำอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน มอบให้กับชาวบ้านที่อยู่ภายในบ้านเนื่องจากระดับน้ำสูงมาก

ทีมเจ็ตสกีอาสา ของสมาคมกีฬาเจ็ตสกี แห่งประเทศไทย

ขออนุญาตรายงานสถานการณ์ครับ เหตุการณ์วันที่ 12 พย 2568 ทีมเจ็ตสกีอาสา ของสมาคมกีฬาเจ็ตสกี แห่งประเทศไทย ออกคณะเดินทาง ไปช่วยเหลือ แจก ถุงยังชีพกับอาหารกล่องปรุงสำเร็จ ให้กับ พี่น้องประชาชน เขตอำเภอบางบาลและใกล้เคียง. ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 20.00น

คณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่บางบาล มีทีมงานคุยข้อมูลกันไปเรื่อยๆ ต่อมา ได้รับแจ้งว่า
อำเภออินทร์บุรี พนังกั้นน้ำแตก น้ำทะลักท่วมรวดเร็ว รุนแรง ทีมงานเช็คข่าว
ขอเข้าพื้นที่ เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือการอพยพ. ที่พืกัดวัดประสาท ขณะนั้นแหล่งข่าวข้อมูลไม่ชัดเจน. 

เลยขอประชุมทีม

สรุปว่า เราเลือกถอนกำลัง จบภารกิจ ทุ่งบางบาล. ออกเดินทาง เวลา ประมาณ 20.00 น
มุ่งหน้าวัดประสาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยจำนวนรถอุปกรณ์ ประมาณ 15 คัน
มุ่งหน้าสู่วัดประสาท.

ระหว่างเดินทาง. ทีมงานได้เช็คข่าวหน้างานตลอดเวลา
ระหว่างเดินทาง รถเทเลอร์ลาก เจ็ทสกี ของน้องแจ็บ
ยางระเบิดขณะใช้ความเร็วสูง. ทำให้ทีมเราไปต่อไม่ได้

ทีมท้ายขบวน จึงเปิดไฟฉุกเฉิน ประคองเข้าปั๊ม
จัดแจงแก้ไข ใช้เวลาอันสั้นด้วยทีมงานมือุปกรณ์ซ่อมบำรุงมาด้วยครบครัน

เสียเวลาประมาณ 15 นาที
เดินทางต่อมุ่งหน้าวัดประสาท อำเภออินทร์บุรี.

ทีมถึงหน้างาน แบ่งกันไปหาข่าว. ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่.
ได้ใช้เรือท้องแบนจำนวน 1 ลำ
เรือพลาสติก 1 ลำ
เจ็ทสกีจำนวน 5 ลำ
พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่.
ช่วยเหลือ อพยพ ผู้ป่วย ฉุกเฉิน พร้อมน้ำดื่มถุงยังชีพ

เวลา 22.15 ลงพื้นที่
พบผู้ประสบภัยขาดน้ำดื่ม จำนวนมาก ชาวบ้านให้ช่วยขนย้ายตู้เย็นขึ้นที่สูง ขนย้ายที่นอน
เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
แจกถุงยังชีพ ด้วยบริเวณดังกล่าว บางส่วนต้องใช้เจ็ตสกีน้ำค่อนข้างแรง มาก . จากการสอบถามชาวบ้านยังไม่มีทีมไหนเข้ามาได้เลย ในพื้นที่นี้.

ระหว่าง ปฏิบัติภารกิจนั้น ชาวบ้านขอความช่วยเหลือย้ายผู้ป่วย เคสนี้ อันตรายมาก ด้วยกระแสน้ำแรงพื้นที่จำกัดต้องถอยหลังออกอย่างเดียว. แต่ถ้าทีมเราทำพลาดไม่มีโอกาสแก้ไข
เรียกญาติมาคุย ด้วยสถานการณ์ มีความเสี่ยงสูง
ยืนยันคำเดิมควรย้ายออก

ทีมงานประสานรถ ambulance ในพื้นที่ สแตนบาย. เราได้จัดทีมวางตำแหน่งทุกคนพร้อมเข้าพื้นที่
น้องแชมป์เป็นคนขับขี่.
พาคุณลุงอายุ 75. ออกจากพื้นที่. น้อง เเจ๊บ เป็นคนเซฟ ตี้น้องแชมป์อีกที. น้องแบงค์เป็นมือที่ 2 หากเกิดความผิดพลาด.

ทีมที่หนึ่งที่เข้าก่อน. เรือท้องแบนอยู่ท้ายสุด คอยสนับสนุน. ด้วยพื้นที่หน้า
งานมีความเสี่ยงสูง.

สุดท้ายภารกิจจบได้ดีเรานำผู้ป่วยออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ
ส่งต่อถึงโรงพยาบาลเรียบร้อย จบภารกิจหน้างาน
2.45น เดินทางกลับสวัสดิภาพถึงกรุงเทพฯ 5.45น

บรรยายเรื่อง"การบริหารเชิงยุทธศาสตร์และภาวะผู้นำทางวัฒนธรรม"

11 พย 2568 ไปบรรยายเรื่อง"การบริหารเชิงยุทธศาสตร์และภาวะผู้นำทางวัฒนธรรม" ในหลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงของชาติ ด้านการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ซึ่งเป็นหลักสูตรร่วมของ สถาบันพระปกเกล้า กับกระทรวง อว. สำนักงานสกสว. สำนักงานสอวช. และหน่วยบพท. 

ได้อธิบายทั้งวัฒนธรรมเผาในที่โล่ง ฝุ่น ไฟ ฝน ให้เห็นวัฏจักร ผู้ร่วมหลักสูตรมักเป็นนายกท้องถิ่น และกรรมการพรรคการเมืองต่างๆ ชี้ให้เห็นประโยชน์ของ พรบ.อากาศสะอาด อุปสรรค และการเตรียมพื้นที่ทั้งในการเผชิญไฟ เผชิญฝุ่น เผชิญฝน และเผชิญดินเลนที่ไหลจากทางน้ำหลากท่วม รวมทั้งขยะด้วย

วิทยากรในหลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงของชาติ ด้านการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ซึ่งเป็นหลักสูตรร่วมของ สถาบันพระปกเกล้า

ศ. ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ดร. สีลาภรณ์ บัวสาย
ศ.ดร.วิษณุเครืองาม
ศ.ดร.อานันท์ กาญจน์พันธุ์
ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ
พลตรี พีระพงษ์มานะกิจ
ดร.เศรษพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
ศ. ดร .ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์
รศ.ดร. สุกรี เจริญสูข
นายวีระศักดิ์โควสุรัตน์
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์
นายอภิสิทธิ์ไล่ศัตรูไกล
นางกาญจนารัตน์ ลิวิโรจน์
นายปัญญานิรันดร์กุล
ดร.ยงธนิศร์ พิมลเสถียร
ดร.ถวิลวดี บุรีกุล
นายวีระโรจน์พจนรัตน์
ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล
นายวีระ ธีภัทร
ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล

การประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ The International Conference on Biodiversity 2025 (IBD 2025)

ในการประชุมวิชาการนานาชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ หรือThe International Conference on Biodiversity 2025 (IBD 2025) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เป็นเวลา 3 วัน

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระกนิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดงาน และทรงบรรยายพิเศษ ยังความปลื้มปิติอย่างใหญ่หลวงต่อคณะกรรมการจัดงาน และบรรดานักวิชาการตลอดจนพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯในวันเปิดงานประชุม

จากนั้นต่อด้วยการขึ้นบรรยายของวิทยากรรับเชิญจากต่างประเทศและไทย

ในการนี้ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและอดีตรองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้รับเชิญให้เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ " Nature Positive & Tourism : A Turning Point, Not a Trend"

โดยนายวีระศักดิ์ได้ยกตัวอย่างให้เห็นว่าหากกิจกรรมต่างๆในวงการท่องเที่ยว ได้รับการออกแบบให้มีมิติที่ทำให้นักท่องเที่ยวตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทของความหลากหลายทางชีวภาพต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวและชุมชนผู้ให้บริการท่องเที่ยว จะสามารถพลิกวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดผลร้ายต่อพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ ให้กลายเป็นการเอื้อบำรุงความหลากหลายต่างๆได้อย่างเกื้อกูล สาระสำคัญคือต้องมีแบบอย่างให้สัมผัสได้ มีหลักการที่มุ่งใช้ท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ให้ท่องเที่ยวเป็นเป้าหมาย โดยไม่ได้ระวังว่าจะทำร้ายรบกวนกลไกธรรมชาติ

นายวีระศักดิ์ยังยกตัวอย่างถึงกรณีกลุ่มคนพิการปลูกป่า คืนเขาหัวโล้นให้คืนกลับเป็นป่าสมบูรณ์ได้ในเวลาเพียง 5ปี ที่จังหวัดตาก ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเดินทางเเละผู้พิการเกิดแรงบันดาลใจในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการมีบทบาทรักษาสภาพแวดล้อมและเคารพต่อความหลากหลายทางชีวภาพรอบตัว การท่องเที่ยวในคอสตาริกา ในแอฟริกาก็ได้เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างคนท้องถิ่นให้กลับมามีบทบาทคุ้มครองป่าและสัตว์ป่า อย่างนก และสิงโต เพราะการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินำรายได้มาเเบ่งปันแก่คนท้องถิ่น เป็นเงินเพิ่มแก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เป็นทุนการศึกษาให้เด็กในชุมชน