ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
สสส.หนุน ม.มหิดล จัดเวทีประชุมเสวนา
เชิงปฏิบัติการเพื่อ “จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรีครั้งที่ 2”พร้อมตั้งโต๊ะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ลดต้นตอฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพื่อ”อากาศดี ชีวิตดี เราทุกคนร่วมสร้างได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินการนำร่องลดการเผาในที่โล่งเพื่อสุขภาวะที่ดี ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาในที่โล่งใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อ.ศรีสวัสดิ์ 2.พื้นที่ไร่อ้อย อ.ไทรโยค และ 3.พื้นที่ไร่อ้อย อ.บ่อพลอย โดยมีจุดประสงค์หนึ่งเพื่อพัฒนาภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อลดผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการขับเคลื่อนเชิงนโยบายโดยภาครัฐและประชาชนภายในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
ในการนี้ เพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายตามกระบวนการและดำเนินการต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ ทางโครงการฯ จึงได้เรียนเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคประชาชน ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อ “จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี ครั้งที่ 2”ขึ้นเมื่อวันพุธที่ 12 มี.ค.2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 – 12.00 น.ที่ห้องประชุมจิตเกษม ศูนย์ฝึกอบรมท่าทุ่งนา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดยมี อาจารย์ ดร.จุฑามาส แก้วสุข อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ (หัวหน้าโครงการ) ดร.วัชรพล วงศ์เลิศอารักษ์ อาจารย์ประจำวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ ดร.ภวินท์ธนา เจริญบุญ อาจารย์ประจำสาขาวิชาบริหารธุรกิจ ดร.ถกล วิทยาธนรัตนา อาจารย์ประจำเทคโนโลยีการอาหาร ดร.อาจารี แก้วเหล่ายูง รศ.ดร.เอริกา พฤฒิกิตติ อาจารย์ประจำวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ ดร.สุภัทร์ชัย รุจาคม อาจารย์ประจำหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ร่วมระดมความคิดเห็น
นอกจากนี้ยังมี นายประวุธ เปรมปรีย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายชัยวัฒน์ คำมี สมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี นางวันดี เซี่ยงฉิน สมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรัตน์ ประธานเครือข่าย ทสม.อำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนท่าทุ่งนา รวมถึงภาครัฐ ภาคประชาชน และคณะนักวิจัยจากทีม Synergy Climate เข้าร่วม
ในการนี้ได้รับเกียรติจากนายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจ กทม.อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.เจน ชาญณรงค์ รองประธานสภาลมหายใจ กทม.เดินทางมาร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อ “จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี ครั้งที่ 2”เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการจัดตั้ง สภาลมหายใจกาญจนบุรี
ทั้งนี้ อาจารย์ ดร.จุฑามาส แก้วสุข หัวหน้าโครงการ“จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี) กล่าวว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อ “จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี” เป็นโครงการปฏิบัติการนำร่องลดการเผาในที่โล่งเชิงรุกเพื่อสุขภาวะที่ดีในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับทุนสนับสนุนการดำเนินงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ดำเนินการส่งเสริมการลดการเผาในภาคเกษตรและภาคป่าไม้ ในระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2567 ถึง วันที่ 15 ธันวาคม 2568 ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อ.ศรีสวัสดิ ์ พื้นที ่ไร่อ้อย อ.ไทรโยค และ อ.บ่อพลอย จากการวิเคราะห์ข้อมูลจุดความร้อน (Hot spot) จากดาวเทียมย้อนหลัง 10 ปี พบว่าทั้ง 3 พื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีการเผาซ้ำซาก
จุดประสงค์ของการ “จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี”เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่เผาซ้ำซากในจังหวัดกาญจนบุรี โดยการลดจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาในที่โล่งใน 3 พื้นที่ข้างต้นด้วยการ ริเริ่มเครือข่ายสภาลมหายใจ จากการศึกษาความต้องการ ความพร้อมของพื้นที่ การค้นหาเครือข่าย การวางโครงสร้างบทบาทหน้าที่ และแนวทางในอนาคต มุ่งเน้นกระบวนการทางสังคมที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมเป็นภาคีเพื่อร่วมกันสร้างการตระหนักรู้ และฐานข้อมูล เพื่อไปสู่การแก้ไขปัญหาไปสู่แหล่งกำเนิดที่แท้จริง
โดยการ“จัดตั้งสภาลมหายใจกาญจนบุรี” มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเผาในที่โล่งและปรับปรุงการจัดการกิจกรรมทางการเกษตรที่ก่อให้เกิดมลพิษโดยเฉพาะไร่อ้อย เพื่อเสริมการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่ม
พัฒนาเครือข่ายชุมชน โรงเรียน และประชาชนเพื่อลดผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับพัฒนารูปแบบการดำเนินงานในการลดการเผาร่วมกันระหว่างประชาชนกับภาครัฐ รวมถึงริเริ่มเครือข่ายสภาลมหายใจกาญจนบุรี ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานราชการในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและการเผาในที่โล่ง
ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างรายได้โดยการแปรรูปวัสดุเหลือใช้ ลดการเผาไหม้แบบเปิดซึ่งจะช่วยปรับปรุงสุขภาพของประชาชนโดยการลดการสัมผัสกับฝุ่น ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลความเข้มข้นของฝุ่นและความเสี่ยงสุขภาพอย่างเท่าเทียมโดยเฉพาะกลุ่มที่เปราะบาง ดำเนินนโยบายอากาศสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างการสนับสนุนจากชุมชน ส่งเสริมเครือข่ายที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆของจังหวัดกาญจนบุรี
…………..
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี พัชรินทร์ พัฒนะพิชัย 0813317280
ที่มา https://www.karnmuangchumchon.com/2025/35167
NIDA BCG Exclusive Dinner Talkหัวข้อ Green Hotel
หลักสูตร NIDA BCG ครั้งที่ 8 วันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 รายการ Exclusive Dinner Talk Time : 18.45 - 19.30
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวข้อ Green Hotel
At: Eastin Grand Phayathai Bangkok ห้อง Thong Lo 4th Floor
กสม. จัดประชุมรับฟังข้อมูลและความเห็น ประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5
วันที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนายไพโรจน์ พลเพชร และนางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาท ที่ปรึกษาประจำ กสม. นางสาวหรรษา หอมหวล เลขาธิการ กสม. รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ประชุมรับฟังแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5 โดยรับฟังข้อมูลจากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ รวมทั้งภาคประชาสังคม ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมอาเซียน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร และสภาลมหายใจเชียงใหม่ ณ ห้องประชุม 709 สำนักงาน กสม.
ในการประชุมดังกล่าว ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงานในปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นละออง รวมทั้งการเตรียมความพร้อมสำหรับฝุ่นละอองสำหรับปี 2568 เช่น การกำหนดนโยบายหรือมาตรการเพื่อควบคุมและลดการปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิด แนวทางแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน ความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหา การมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดการและแจ้งเตือนข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งการป้องกันและดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ทั้งนี้ กสม. จะรวมรวบข้อมูลและความเห็นที่ได้จากการประชุมเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5 ในภาพรวมเสนอรัฐบาลต่อไป
เสวนา หนัง และ ศิลปะ เพื่อช้าง “Elephants Odyssey Thailand”
-------------------------------
อุทยานการเรียนรู้ TK Park ร่วมกับ Ambassador World Magazine ปางช้างแม่แตง สมาคมสหพันธ์ช้างไทย Mission Innovation Co., Ltd. หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย จัดงาน Elephants Odyssey Thailand พบกับกิจกรรมเสวนาเรื่อง ช้าง จากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต (Elephant Odyssey Thailand Panel Talk) โดยคุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ประธานที่ปรึกษามูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย
พร้อมจัดฉายภาพยนตร์สารคดี 2 เรื่อง The Elephant Queen (Kenya) และ CHANG (Thailand) เพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์ช้าง รวมถึงกิจกรรมวาดภาพช้างในโครงการช้างล้านตัว การนำเสนอผลงาน AI Art on Elephants ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13:00–19:00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้อเนกประสงค์ อุทยานการเรียนรู้ TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น MyTK หรือ TK Park : Thailand Knowledge Park (รับจำนวนจำกัด)
กทท. เปิดวงเสวนาท่องเที่ยวปลอดภัยปราศจากการค้ามนุษย์
กทท.’ เปิดวงเสวนา ‘ท่องเที่ยวปลอดภัยปราศจากการค้ามนุษย์’ ดึงภาคเอกชนวางเรดาร์ป้องอาชญากรรม...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_5064073
‘กรมการท่องเที่ยว ’เปิดวงเสวนา ‘ท่องเที่ยวปลอดภัยปราศจากการค้ามนุษย์’ ดึงภาคเอกชนวางเรดาร์ป้องอาชญากรรม
เมื่อเร็วๆ นี้กรมการท่องเที่ยวจัดการประชุม ในหัวข้อเรื่อง การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และปราศจากการค้ามนุษย์ (Tourism Industry VS Human Trafficking) ที่ห้องประชุมนนทรีย์ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมี น.ส.วรธีรา สุวรรณศร ผู้อำนวยการกองพัฒนาบริการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนองค์กรภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประชุมด้วย
น.ส.วรธีรา ผู้อำนวยการกองพัฒนาบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า โครงการงานวิจัยของกรมการท่องเที่ยวที่จัดขึ้นในครั้งนี้เพื่อ ต้องการให้มีการปกป้องและต่อต้านการค้ามนุษย์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวไทยเอง จึงกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่างๆ คือ จังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดภูเก็ต ที่อาจจะเกี่ยวข้องเนื่องจากมีประชากรแฝงจำนวนมาก เพื่อให้ได้หลักสูตรออกมา อย่างน้อย 3 หลักสูตร และผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องนำหลักสูตรนั้นไปอบรม ให้ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่อีกต่อหนึ่ง ให้ได้ 400 คน และประโยชน์ที่จะได้รับ คือ แนวทางการดำเนินการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและเครือข่าย เฝ้าระวังปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism Goals : STGs ที่มีอยู่ข้อหนึ่งในเป้าหมายย่อย เป็นเรื่องของการขจัดความรุนแรงทุกรูปแบบที่มีต่อผู้หญิงและเด็ก ทั้งในที่สาธารณะและที่รโหฐาน รวมทั้งการค้ามนุษย์ ในการแสวงหาประโยชน์ในทางเพศต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทำอย่างไรให้ภาคส่วนการท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการแก้ไข
ผู้อำนวยการกองพัฒนาบริการท่องเที่ยวกล่าวอีกว่า เนื่องจากสถิติข้อมูล เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางเพศมีสูงถึง 39% และเด็กที่เป็นเหยื่อประมาณ 18% จนทำให้ไทยอยู่ในอันดับ TIER 2 (ประเทศที่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์โดยสมบูรณ์ แต่กำลังใช้ความพยายาม อย่างยิ่งในการปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านั้น) ที่เคยปรับมาจาก TIER 2 WATCHLIST (ประเทศที่มีการรายงานถึงเหยื่อการค้ามนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น หรือไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลของประเทศนั้นๆ ได้พยายามต่อต้านการค้ามนุษย์) แต่ยังอยู่ในความดูแลและจับตามองของประเทศต่างๆ อยู่ ปัจจุบันมีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ ที่องค์ประกอบในเรื่องของการกระทำ ความผิดมี 3 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณีสื่อลามกผลประโยชน์ทางเพศหรือแม้แต่การเป็นขอทานเป็นการหาประโยชน์โดยมิชอบทั้งสิ้น ในช่วงที่ผ่านมานั้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดีและการ ช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการหรือบูรณาการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน แต่หลายจังหวัดที่ไปประชุมมา การทำงานยังไม่ชัดเจน
“สำหรับการจัดเก็บข้อมูล Real Time จนถึงปัจจุบัน มีข้อมูลเป็นคดีสูงถึง 381 คดี มีผู้เสียหายที่ได้รับการช่วยเหลือ คุ้มครอง ประมาณ 600 คน และผลกระทบเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการแกะรอยขอทาน Lounge เถื่อนที่แม่สาย รวมทั้งกรณีการหลอกลวงดาราซิงซิงชาวจีน ออกไปบริเวณชายแดนที่แม่สอด เรื่องนี้เป็นผลกระทบมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศไทย First Visit อาจจะมีผลกระทบในการเข้ามาท่องเที่ยว หลายคนก็ติดต่อเรามา เช่น ให้หารถตู้ที่ปลอดภัย เป็นความกังวลของนักท่องเที่ยวส่วนนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วมองเห็นภาพต่างๆ ดี อย่างไรก็ดีในภาคส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเราจะทำอย่างไรให้จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพได้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้คือ 39 ล้านคน ส่วนปีที่ผ่านมาตั้งไว้ที่ ประมาณ 36.7 ล้านคน แต่เข้ามา 35.54 ล้านคน” ผู้อำนวยการกองพัฒนาบริการท่องเที่ยวกล่าว และว่า หากมีปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการค้ามนุษย์จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทุกฝ่าย ทั้งโรงแรม รีสอร์ต และในวันนี้เมื่อมีการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หากสามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ จะมีส่วนนำรายได้เข้าประเทศเพิ่มสูงขึ้น ที่ผ่านมากรมการท่องเที่ยวมี 56 มาตรฐาน ระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียน ได้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับ การส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project) มีการลงนามความร่วมมือกับ 21 หน่วยงาน ตลอดจนมีการอบรม ให้กับหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับเด็ก และมาถึงโครงการนี้ จะขยายไปสู่ผู้ใหญ่หรือกลุ่มอื่นต่อไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีองค์ความรู้ในการป้องกันได้ และโครงการท่องเที่ยวที่ศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ ต้องการที่จะมาสอบถามในพื้นที่ โดยเฉพาะภารกิจของหน่วยงานต่างๆ และแนวทางในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ และคู่มือหรือหลักสูตรที่จะต้องจัดทำขึ้นมาจะต้องพิจารณาครอบคลุมไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ เช่น หลายจังหวัดพิจารณาเสนอครอบคลุมไปถึง นักเรียนและนักศึกษา และจริงๆ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก
ด้าน ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กล่าวว่า เงินสกปรกในโลกนี้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาในระดับนานาชาติ อันดับแรกคือ การค้ายาเสพติด รองลงไปเป็นการค้าอาวุธ และการค้ามนุษย์ ประเทศไทยเริ่มตื่นตัวขึ้นมาเนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้รายงานข้อมูลการค้ามนุษย์รายประเทศในขณะเดียวกันองค์การสหประชาชาติเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ สำหรับโครงการที่กรมการท่องเที่ยวดำเนินการอยู่ในวันนี้ เจ้าหน้าที่มาบอกกล่าวหลักการคืออะไรและต้องการมารับรู้ข้อมูลเนื่องจากว่า รูปแบบของการค้ามนุษย์เปลี่ยนประเด็นไปมาก ไม่ใช่เป็นการค้ามนุษย์ของคนชายขอบที่ไม่มีเสียง ยากจนไม่มีการศึกษา เป็นแรงงานไม่มีทักษะ เหมือนในอดีต แต่ในปัจจุบันมีคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกเงินคนไทยไปหลายหมื่นล้านบาท เรื่องนี้กลับเป็นการสร้างปัญหาโดยผู้ที่มีการศึกษา พูดจารู้เรื่องหว่านล้อมเป็นและมีการใช้เทคโนโลยีเป็น โดยเป็นการเอา Generation เด็ก ไม่ว่าจะเป็นแรงงานทางเพศแรงงานประมง หรือแรงงานชนิดไหนก็ตาม เคยมีการไปช่วยเหลือเด็กหญิงที่มาจากประเทศ สปป.ลาว หลอกว่าให้มาทำงานในโรงงานแถวบางแค แต่พอเข้าไปแล้วถูกทุบตีทารุณ ไม่ให้ออก ไม่ให้พักจับใส่ถุงพลาสติกสีดำและเอาน้ำยาล้างห้องน้ำราดลงไปด้วย ให้อยู่ในถุงเป็นวันๆ ในที่สุดพยายามหลบหนีออกมาได้จากห้องแถวที่มีการควบคุมให้ทำงานเกี่ยวกับการถักผ้าลูกไม้ จนเจ้าของถูกดำเนินคดีในข้อหาการค้ามนุษย์
ดร.วีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในภาคส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยว ภาคประชาสังคม ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ และโรงแรมเป็นสถานที่ส่วนหนึ่งที่ผู้ที่ก่อเหตุใช้ดำเนินการบางส่วนบางตอน หรือก่อนการก่อเหตุ เพราะเป็นที่นัดพบกันร้านกาแฟอาจจะเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการตระหนักรู้ มอบหมายให้พนักงานสังเกตการณ์ผู้เข้าพัก ว่าผู้มาติดต่อนั้น เป็นนักท่องเที่ยวปกติหรือมีอะไรแอบแฝง ควบคู่ไปกับกลุ่มภาคประชาชนที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมเช่นเดียวกัน และหากปัญหาการค้ามนุษย์เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบในภาพรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันยังรวมความไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ออกใบอนุญาตโรงแรม เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม หรืออื่นๆ หากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบกับเมืองท่องเที่ยว
ดังนั้นการที่มีเรดาร์กว้างขึ้น โดยสังเกตรวบรวมข้อมูลสถิติเช่นปัญหาที่เกิดขึ้น มักจะเกิดขึ้นในโรงแรมระดับ 3 ดาว มากกว่า 4 ดาว ช่วงวันเวลา ที่เกิดเหตุผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 2 หรือ 3 คน การรวบรวมข้อมูลสถิตินี้เป็นข้อมูลทางวิชาการในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว ที่จะถูกประมวลผลรวบรวมเอาไปเป็นกรณีศึกษาหรือมีแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้...
ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_5064073