ร่วมทีมเครือข่ายอาสาเพื่อนพึ่งภาฯ และทีมอาสาฯ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการมูลนิธิฯ, พร้อมด้วย นายฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล กรรมการ และผู้จัดการมูลนิธิฯ, Mr.vern unworth นักสำรวจถ้ำ, ทีมจากคิโด survival camp, ทีมจิตอาสาเชียงราย Caving คลับ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ประสานความร่วมมือ 

ณ โรงครัวพระราชทาน ที่ทำการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ร่วมประกอบอาหาร บรรจุข้าวสวย และทอดไก่สำเร็จรูปปรุงรส 

ณ ชุมชนวัดถ้ำผาจม ตำบลเวียงผางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมเข้าให้ขวัญและกำลังใจ และปฏิบัติภารกิจทำความสะอาดดินโคลน คืนพื้นที่ภายในบ้านให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

ร่วมทีมเครือข่ายอาสาเพื่อนพึ่งภาฯ และทีมอาสาฯ ลงพื้นที่

รัฐบาลยังบริหารในบริบทน้ำท่วม แค่ยกระดับขึ้นนิดหน่อย ทีมเจ้าหน้าที่ราชการเค้าใส่เต็มที่กับหน้างานแล้ว แต่นั่นคืองานสนาม สิ่งที่ต้องระดับรัฐบาลคือจะพาโยกย้ายเลยมั้ย เวนคืนที่ดินทั้งหมดมาใช้บริหารการรับตะกอนเลนเพื่อยันน้ำในฤดูหน้ามั้ย จัดที่ทำกินพร้อมการปลูกสร้างระบบประปา ไฟฟ้าใหม่ในที่ใหม่ลึกห่างออกไปเพื่อให้ย้ายทั้งย่านมั้ย หรืออย่างน้อยประกาศไฟฟ้าประปาภาษีที่ดินฟรีในพื้นที่จนกว่าจะถึงเวลาตั้งตัวได้ใหม่มั้ยเป็นต้นครับ 

วันนี้สลับไปลงที่เขตบ้านบ่อทราย ส่วนทีมบางส่วนแบ่งกำลังเข้าซ้ำในพื้นที่ถ้ำผาจมครับ

ผลักดันตั้งสภาลมหายใจลุ่มน้ำโขง

8 ตุลาคม 2567 ที่อาคารที่ตั้งสำนักงาน AFD Group Regional Office ของทางการฝรั่งเศส ชั้น 35 อาคาร Exchang Tower ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ เดินทางมาบรรยายสรุปเรื่อง "ปัญหาคุณภาพอากาศในไทยและลุ่มน้ำโขง : สาเหตุ และข้อสังเกต" ภาคภาษาอังกฤษให้กับคณะเจ้าหน้าที่ทางการ จากชาติในอาเซียนได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน เจ้าหน้าที่องค์การอาเซียน(ASEAN) และเจ้าหน้าที่ของทางการฝรั่งเศสที่กำลังร่วมทำงานกับคณะทำงานอาเซียนด้านอากาศสะอาด หรือ Asean Air Quality Improvement Program in ASEAN หรือ AQIP

โดยนายวีระศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นว่านอกจากน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาข้ามพรมแดนแล้วในฤดูมรสุมแล้ว. ฝุ่นก็เป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่ต้องอาศัยความร่วมมือภาคราชการที่แต่ละประเทศควรต้องเร่งร่วมมืออย่างเร่งด่วน

นายวีระศักดิ์ยังได้นำเสนอทางคู่ขนานคือรัฐสมาชิกควรผลักดันให้เกิดสภาลมหายใจในแต่ละประเทศ ขึ้น โดยอาศัยภาควิชาการ ภาคเอกชนและภาคประชาชนรวมตัวทำงานเพื่อช่วยชี้ข้อมูลแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศในแต่ละเขตพื้นที่ให้รัฐของตนร่วมบริหารจัดการ และควรเชื่อมข้อมูลภาคประชาสังคมระดับประชาชนอาเซียนเข้าหากัน. เพื่อให้เกิดสภาลมหายใจอาเซียน สภาลมหายใจลุ่มน้ำโขงต่อๆไป
โดยสภาลมหายใจภาคประชาชนนี่เองจะสามารถใช้เครือข่ายระดับต่างๆ สื่อสารให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ที่ดิน กำกับการรับรู้ และสื่อสารแปลข้อมูลจากดาวเทียมลงมาให้เครือข่ายช่วยกันวิเคราะห์ เพื่อหาทางเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คน สกัดการขยายตัวของทุนที่มักเอากิจกรรมการก่อมลภาวะทางอากาศอย่างไม่รับผิดชอบไปไว้ข้ามเส้นพรมแดน

รวมทั้งสภาลมหายใจภาควิชาการยังสามารถช่วยชี้นำกลไกทางเศรษฐศาสตร์ และกฏระเบียบที่จะช่วยให้อากาศในอนุภูมิภาคมีคุณภาพดีขึ้น ทั้งสามารถสื่อสารกับภาครัฐและชุมชนด้วยวิธีที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงง่ายกว่าในหลายโอกาส

นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ยังได้สาธิตการประกอบกล่องอากาศสะอาดที่ทำจากกระดาษ แสดงวิธีเรียงแผ่นฟิลเตอร์กรองฝุ่น 2 ชั้น ติดตั้งพัดลมประหยัดพลังงานด้านในกล่องและบอกวิธีต่อท่อลมสะอาดเข้าไปในมุ้งตามบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดราคาและพลังงาน เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่ยังไม่มีกำลังทรัพย์มากพอจะเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศราคาสูง ใช้วัสดุเลียนแบบได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้มีภาวะเปราะบาง เช่นเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ ให้พอมีที่หลบภัยจากฝุ่นในช่วงที่ค่าฝุ่นขึ้นสูงได้ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดีจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากชาติต่างๆ

กิจกรรมการเดินทางเยี่ยมดูงานครั้งนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม AFD ของรัฐบาลฝรั่งเศส

ชุมชนเกาะทราย แม่สายในกองโคลน

6 ตุลาคม 2567 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากสภากาชาดไทยเปิดเผยวันนี้ว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติจากดินโคลนที่แม่น้ำสายทะลักท่วมเข้ามา ในชุมชนต่างๆของแม่สาย จังหวัดเชียงราย และได้นำคณะอาสาสมัครจากกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆจากสมุทรปราการ ชลบุรี ประจวบคีรีขันต์ไปช่วยชาวบ้านล้างบ้านเรือนจากกองโคลนที่ชุมชนถ้ำผาจมซึ่งติดกับย่านสายลมจอยวานก่อนนี้นั้น

วันต่อมา ตนได้สลับมาเยี่ยมตะเวณช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากดินโคลนเข้าพื้นที่ที่เขต เกาะทราย ซึ่งติดแม่น้ำสายอยู่ต่อเนื่องจากพื้นที่บ้านลุงขนเช่นกัน โดยมี Mr. VERN Unsworth และภรรยา ไปกราบนมัสการหลวงพ่อวัดเหมืองแดง ซึ่งหลวงพ่อเมตตาเปิดพระอุโบสถวัดให้เป็นทั้งที่พักพิงแก่ชาวบ้านที่ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ และใช้พระอุโบสถเป็นที่เก็บสิ่งของบริจาคเพื่อสนับสนุนชาวบ้านที่เดือดร้อน

ในขณะเดียวกัน คณะของนายวีระศักดิ์ก็ไปเยี่ยมคณะสงฆ์และเณรที่วัดเกาะทรายคำ ในเขตพื้นที่เกาะทราย พบคณะสงฆ์และเณรในวัดกำลังพยายามกวาดเก็บโคลนออกจากศาลาสวดและใช้งานอเนกประสงค์ของวัด นายวีระศักดิ์และคณะจึงเข้าช่วยในการผลักโคลนเลนที่หนาถึงกว่าฟุตที่ท่วมกองตลอดแนวยาวของทั้งศาลาออก และไปทำความสะอาดห้องน้ำวัดซึ่งมีผู้เดินผ่านเลนโคลนเข้าไปใช้ตลอดวัน

จากนั้นไปเยี่ยมพื้นที่ในชุมชนเกาะทราย พบว่ามีชาวบ้านที่ไม่สามารถเดินเข้าตรอกลึก20เมตรที่เป็นทางเข้าออกกลุ่มบ้านเรือนตนเองได้ เพราะโคลนและน้ำนำเศษไม้และวัสดุสารพัดอย่างมากองอุดปิดทาง

ซึ่งนายวีระศักดิ์คาดว่าคงต้องอาศัยเลื่อยยนต์ตัดผ่าเข้าไป จึงประสานแจ้งทางการให้ทราบเพื่อเร่งหาทางช่วยบรรเทาปัญหาในระดับซอยต่อไป เนื่องจากขณะนี้สภาพถนนทางหลักในชุมชนแม้มีโคลนอยู่แต่หน่วยงานต่างๆก็เร่งระดมขนย้ายโคลนออกไปได้ตลอดวันตลอดคืน และน่าจะใกล้ถึงการขยับเข้าถนนซอยซึ่งมีอยู่จำนวนมากได้ต่อไป

อนึ่ง นายวีระศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า"...ผมเดินวนสำรวจในหลายถนนหลายตรอกซอย นั่งรถผ่านไปมาหลายรอบ ไม่เห็นสุนัขซอย สนุขจรจัดแม้แต่ตัวเดียว ไม่ได้ยินเสียงสุนัขเห่า ถามคนแถวนั้นได้คำตอบว่าคาดว่าคงถูกน้ำโคลนที่มารวดเร็วกวาดทับจมใต้โคลนที่เริ่มแห้งไปแทบทั้งหมด แต่ยังพอเห็นไก่ เห็นแมวบ้างบางตา นับว่าคิดแล้วน่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง.." นายวีระศักดิ์กล่าว