ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
ESRI Thailand โชว์ฟีเจอร์ GIS ร่วมกับสภาลมหายใจกรุงเทพฯ เปิดตัวแอปฯ แสดงอัตราระบายของลมทั่วไทยล่วงหน้าได้ 7 วัน
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาแพลตฟอร์ม Location Intelligence จับมือร่วมกับสภาลมหายใจกรุงเทพฯ (Breathe Bangkok) เปิดตัวแอปพลิเคชัน “เตะฝุ่น” นวัตกรรมเทคโนโลยี GIS รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศทั่วประเทศ
นับเป็นครั้งแรกในไทยที่นำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้วิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลฝุ่น PM2.5 โดยตรง พร้อมติดตามสถานะการระบายฝุ่น และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น จุดความร้อน (Hotspot) และดัชนีระบายอากาศแบบเรียลไทม์ รวมถึงคาดการณ์การระบายอากาศและจุดเผาไหม้ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน โดยนำเสนอในรูปแบบแผนที่ดิจิทัลผ่านเว็บไซต์ www.taefoon.com ซึ่งช่วยให้ผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ช่วยยกระดับการติดตามและจัดการปัญหาฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตอบโจทย์การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Esri มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี GIS เพื่อเป็นต้นแบบการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับสภาลมหายใจกรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง โดยโซลูชันนี้ช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม อาทิ การเกษตรและการผลิต สามารถวิเคราะห์และจัดการการปล่อยมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการสะสมในชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอื่น เช่น การท่องเที่ยว ยังสามารถใช้ข้อมูลเพื่อวางแผนลดความเสี่ยง และสร้างความพร้อมในการให้บริการอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันภาคประชาชน สามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์และเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดต่อสุขภาพ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ กล่าวเสริมว่า “สภาลมหายใจกรุงเทพฯ มุ่งมั่นในการสร้างความตระหนักรู้และให้ข้อมูลแก่ประชาสังคมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าถึงอากาศสะอาด โดยเราเข้าใจดีว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 ขึ้นอยู่กับการเผาไหม้และความสามารถของบรรยากาศในการระบายฝุ่น เป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม แอปพลิเคชัน ‘เตะฝุ่น’ ที่พัฒนาร่วมกับ Esri Thailand ช่วยให้เราสามารถติดตามอัตราการระบายอากาศในแต่ละพื้นที่และพยากรณ์ล่วงหน้าได้
ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยี GIS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการพัฒนาที่ยั่งยืนและลดผลกระทบจากมลพิษได้อย่างเหมาะสม เราพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนผ่านโครงการ ‘เคาท์ดาวน์ PM2.5’ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหามลพิษอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งมั่นจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับประชาชน”
แอปพลิเคชัน “เตะฝุ่น” เป็นผลจากการบูรณาการข้อมูลสภาพอากาศและฝุ่น PM2.5 โดยใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ แสดงข้อมูล ความเข้มข้นของฝุ่น อัตราระบายอากาศ (Ventilation Rate) และจุดความร้อนในแผนที่ดิจิทัล (Map Visualization) แม่นยำเข้าใจง่าย ช่วยให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ วางแผนรับมือกับมลพิษทางอากาศได้มีประสิทธิภาพ โดยยกระดับการกำกับดูแลใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดการกระจุกตัวของการเผาไหม้ในช่วงเวลาเดียวกัน ลดความเสี่ยงจากมลพิษที่สูงเกินมาตรฐาน
ด้านสังคม: ส่งเสริมการวางแผนการเผาไหม้อย่างเหมาะสม ลดผลกระทบต่อสุขภาพ และช่วยให้ชุมชนสามารถติดตาม
ญหาฝุ่นได้ดีขึ้นด้านการบริหารจัดการ: ข้อมูลที่เข้าถึงได้อย่างโปร่งใสส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนให้การจัดการคุณภาพอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังเป็นเครื่องมือให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศได้ง่าย ช่วยให้เตรียมความพร้อมและปรับตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ เราหวังว่าโครงการนี้จะสามารถขยายผลร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคที่ก้าวหน้า เพื่อสังคมที่มีอากาศสะอาดและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน” ดร. ธนพร กล่าวปิดท้าย
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.esrith.com
https://www.thaipr.net/it/3549278
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำบุญโครงการ "ประกันภัยอาสาสู้ไฟป่า"
ด้วยพื้นที่ป่าที่กว้างกว่า 100 ล้านไร่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯไม่อาจควบคุมไฟป่าได้หมด ชาวบ้านในท้องถิ่นจึงรวมตัวเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือดับไฟ ส่วนมากทำไปโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อลดไฟทำลายป่า และลดผลกระทบจากมลพิษ PM 2.5 ที่พวกเราต้องเผชิญ
แต่อาสาสมัครเหล่านี้ต้องประสบความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยไม่มีงบประมาณของหน่วยงานอุทยานฯสามารถเข้ามาดูแล
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ จึงมีโครงการ "ประกันภัยอาสาสู้ไฟป่า" เพื่อเป้าหมายที่จะทำประกันอุบัติเหตุและชีวิตให้กับอาสาสมัครทุกคนที่เข้าป่าไปสู้ไฟ ด้วยต้นทุนเพียง 30 บาท/คน หากเสียชีวิตจะได้ชดเชย 100,000 บาทแก่ครอบครัวของพวกเขา
เราขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำบุญในครั้งนี้ผ่าน e donation (ลดหย่อนภาษีได้) ผ่านทางเทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/project/Dst-DNPVOLUNTEER
เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราจะไม่ลืมความเสียสละของพวกเขา
ช่วยกันแชร์โครงการนี้ออกไปให้ชาวกรุงเทพฯ ชาวปริมณฑล ชาวเมืองทั้งหลาย และชาวไทยทุกคนที่มีจิตกุศลกันครับ
ร่วมรายการเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมในงาน ที่รายการ "จ้อข่าวเช้า" ทาง ไทยทีวีสีช่อง7
คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการจัดงาน "ทศมราชา สายํารพระเมตตา สู่แผ่นดิน" เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร่วมรายการเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมในงาน ที่รายการ "จ้อข่าวเช้า" ทาง ไทยทีวีสีช่อง 7
https://news.ch7.com/detail/770400
พบกับงานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2567 "๑๐ ทศมราชา สายธารพระเมตตาสู่แผ่นดิน" ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ชั้น G บริเวณ EM TOWER ระหว่างวันที่ 5-10 ธันวาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
ร่วมบรรจุถุงยังชีพ ส่งต่อกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัย
ร่วมฟังเสวนาการถอดบทเรียน "มหาอุทกภัย" จังหวัดเชียงราย
สนุกกับกิจกรรม Workshop จากชุมชนผู้ประสบอุทกภัย อาทิ การปักผ้าชูใจจากชุมชนแม่แดดน้อย จังหวัดเชียงใหม่, การทำยำมะมุด พืชท้องถิ่นของนครศรีธรรมราช และทำตุ๊กตาหอมผ้าคราม จากชุมชนจังหวัดสกลนคร
ช้อปเพลินกับสินค้าจากร้านรับเชิญกว่า 40 ร้าน และร่วมสนับสนุนสินค้าจากชุมชนผู้ประสบมหาอุทกภัยที่ร้าน "พึ่งพา" และ PAfé เพื่อช่วยฟื้นฟูอาชีพหลังเหตุการณ์อุทกภัย ให้ชุมชนกลับมามีรายได้ สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองต่อไป
รายได้สมทบทุนมูลนิธิฯ เพื่อใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างครบวงจรและยั่งยืน
.
#งานเพื่อนพึ่งภาฯ2567 #๑๐ทศมราชาสายธารพระเมตตาสู่แผ่นดิน
เชิญชวนเที่ยวงาน เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติ “ทศมราชา สายธารพระเมตตาสู่แผ่นดิน”
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญชวนเที่ยวงาน เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติ “ทศมราชา สายธารพระเมตตาสู่แผ่นดิน ” 5 – 10 ธันวาคม 2567
วันนี้ที่ The Athenee Hotel มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดงานแถลงข่าว" ทศมราชา สายธารพระเมตตาสู่แผ่นดิน งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2567" เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการดำเนินการจัดงานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวถึงรูปแบบการจัดงานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติฯ ในปีนี้ว่า คณะกรรมการจัดงานฯได้นำ “การถอดบทเรียนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างครบวงจรและยั่งยืน” จากเหตุมหาอุทกภัยจังหวัดเชียงรายที่เกิดจากพายุยางิ ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มาจัดแสดงสรุป โดย ภายในงานจะพบกับโซนนิทรรศการพันธกิจของมูลนิธิ ประกอบด้วย โซนภารกิจเฝ้าระวัง...ก่อนเกิดภัยพิบัติ จำลองสถานการณ์จริงการทำงานของสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ มีโซนแสดงภารกิจบรรเทาทุกข์...คือกิจกรรมของมูลนิธิฯในระหว่างเกิดภัยพิบัติ มีการจัดแสดงพระเมตตาขององค์นายกกิตติมศักดิ์ และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ผ่านการประมวลภาพเหตุการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้ร่ม “น้ำพระทัยสองพระมิ่งขวัญ” และมีพื้นที่เชิญชวนผู้มาร่วมงานสามารถร่วมจัดถุงยังชีพพระราชทาน“สัญลักษณ์แห่งขวัญและกำลังใจ” โดยร่วมจัดถุงจริงและบริจาคสมทบส่งต่อเป็นกำลังใจเพื่อผู้ประสบอุทกภัย และจะรับทราบว่าถุงยังชีพที่จัดส่งถึงมือผู้ประสบภัยในพื้นที่ใดผ่าน SMS พร้อมรับพวงกุญแจ “พี่พึ่งพา” แทนคำขอบคุณ มีจัดโซนภารกิจฟื้นฟู...หลังภัยพิบัติ ผ่านพ้น. เพราะมูลนิธิฯให้ความสำคัญทั้งการฟื้นฟูจิตใจ ฟื้นฟูชุมชน และฟื้นฟูอาชีพ โดยมีการประมวลภาพฟื้นฟูหลังน้ำลด ภาพการช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตประกอบอาชีพเดิมได้เป็นปกติ
ในงานนี้ยังจัด “กาด(ตลาด) มีชีวิต” เพื่อสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนชาวเชียงรายที่ได้รับผลกระทบ อาทิ หยกแกะสลัก ข้าวซอยน้อย ข้าวฟืมทอด ฯลฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนับสนุนชาวบ้านโดยตรงด้วย
เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี และพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทย ในยามที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่าง ๆ อาทิ ภัยหนาว วาตภัย อัคคีภัย อุทกภัย ผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยในส่วนของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทภัยมานานกว่า 29 ปี โดยงานปีนี้จะมีการจัดแสดงนิทรรศการการถอดบทเรียนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุมหาอุทกภัยจังหวัดเชียงราย ผ่านนิทรรศการเสมือนจริงในภารกิจของมูลนิธิฯ ตั้งแต่การเฝ้าระวัง การบรรเทาทุกข์ระหว่างเกิดอุทกภัย และการฟื้นฟูหลังภัยผ่านพ้น ฟังการเสวนาทุกวันเพื่อถอดบทเรียน จัดกิจกรรม workshop พร้อมได้เลือกอุดหนุนผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ร้านโครงการส่วนพระองค์ ร้านพระบรมวงศานุวงศ์ ร้านพึ่งพา - PAfé ร้านค้ารับเชิญจากชมรมคู่สมรสตุลาการ ชมรมคู่สมรสอัยการ ร้านภริยาเหล่าทัพ ร้านภาคีเครือข่ายกว่า 40 ร้าน และเพลิดเพลินจากกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย
โดยในการแถลงข่าว ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกรรมการอำนวยการจัด “งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา” พร้อมด้วย คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการดำเนินการจัดงานฯ และคุณฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล กรรมการและเลขานุการอำนวยการจัดงานฯ ให้เกียรติเป็นผู้แถลงสาระข่าว ทั้งด้านวัตถุประสงค์การจัดงาน รูปแบบการจัดงาน และกิจกรรมภายในงาน โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย คณะกรรมการการจัดงานฝ่ายต่าง ๆ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมงาน
อนึ่ง รายได้จากการจัดงานฯในครั้งนี้ นำสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ดำเนินการจัดงาน “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” เฉลิมพระเกียรติฯ
เมือวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการบริหารมูลนิธิ อาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมการดำเนินการจัดงาน “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ)” เฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 5-10 ธันวาคม 2567 นี้ เข้าตรวจสถานที่การจัดงานฯ
- บริเวณสเฟียร์ฮอลล์ ชั้น5 สำหรับพิธีรับเข็มฯ
- บริเวณเอ็มกลาสและเอ็มยาร์ด สำหรับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ
- พร้อมร่วมประชุมกับประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ อาทิ ฝ่ายร้านค้า, ฝ่ายการแพทย์, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย, ฝ่ายประชาสัมพันธ์, ฝ่ายพิธีการ และฝ่ายสถานที่ เป็นต้น
ทั้งนี้ทุกฝ่ายรายงานการทำงานให้ประธานทราบ และทุกฝ่ายพร้อมรับปฏิบัติในส่วนที่รับผิดชอบ