ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)เพื่อมอบถุงยังชีพพระราชทานให้ราษฏร ที่อำเภอหล่มเก่า

เลขาธิการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภาฯ วันนี้ผมบินมากับกรมวังผู้ใหญ่ พลอากาศเอกสมคิด สุขบาง รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) เพื่อมอบถุงยังชีพพระราชทานให้ราษฏร 2,000+7,000 ถุง ที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ20ปีของเพชรบูรณ์ ที่อำเภอหล่มเก่า
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญถุงยังชีพพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) เวลา 13.00 น. ที่ หอประชุมโรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม 508 หมู่ 5 ถนนหล่มสัก – เลย ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และรองประธานกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิฯ นายสันติ สาทิพย์พงษ์ รักษาการหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการมูลนิธิฯ
นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ข้าราชการ จิตอาสา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าร่วมในพิธีเชิญถุงยังชีพพระราชทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 100 ถุง และมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ นายอำเภอหล่มเก่า นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายอำเภอชนแดน นายอำเภอบึงสามพัน นายอำเภอวิเชียรบุรี นายอำเภอศรีเทพ นายอำเภอหนองไผ่ และนายอำเภอหล่มสัก เพื่อนำไปส่งมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 2,000 ถุง
จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 258/1 หมู่ 5 ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางและมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 3 ราย
จังหวัดเพชรบูรณ์ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” ในห้วงวันที่ 28 - 30 กันยายน 2568 เกิดฝนตกต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ ห้วย ลำคลองต่าง ๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ในพื้นที่ 8 อำเภอ 34 ตำบล 171 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง และ 11 ชุมชน ผลกระทบ 17,614 ครัวเรือน สถานที่ราชการ 19 แห่ง โรงเรียน 9 แห่ง วัด 13 แห่ง และ ถนน 1 สาย สำหรับพื้นที่อำเภอหล่มเก่า ได้รับความเสียหาย รวม 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 529 ครัวเรือน




ขอคาราวะดวงจิตของคุณกิตติ สืบสันติพงษ์

ในค่ำคืนนี้ ผมขอคาราวะดวงจิตของ คุณกิตติ สืบสันติพงษ์ ด้วยความยกย่องใน น้ำใจ และความมุ่งมั่น ฝ่าทุกอุปสรรคและความท้าทาย เปลี่ยนพื้นที่เขาหัวโล้นบนเขาใกล้บ้าน ให้กลายเป็นป่าสมบูรณ์ด้วยการนำพาผู้พิการที่ขึ้นทะเบียน ตามกฏหมายส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้ได้รับการจ้างงานจากกิจการต่างๆที่กฏหมายกำหนดว่าลูกจ้างทุกๆ 100 คน ต้องมีการจ้างผู้พิการหนึ่งคน แต่คุณกิตติสามารถช่วยให้พนักงานลูกจ้างจากแต่ละกิจการไม่ต้องจากบ้านจากครอบครัว จากชุมชน จากหมู่บ้าน แต่ให้ยังคงเป็นพนักงานรับจ้างบริษัทที่จ้างแต่ละคนให้ปลูกป่าในนามของกิจการเหล่านั้น ที่บ้านแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ใช้เวลากว่า 5 ปี ผ่านฝน ผ่านร้อน ผ่านแล้ง และผ่านฤดูไฟป่ามาหลายหน จนสามารถปลูกป่าจากยอดลงสู่โคนเขาจนสำเร็จ แล้วคืนป่าเหล่านั้นให้กรมป่าไม้ พร้อมทั้งขอพื้นที่ปลูกแปลงใหม่มาพยายามทำกันต่อ
ขอบคุณ คุณธนชพร ต๊ะทองคำ “นายกเจิน”จากตำบลแม่ปะ ที่คอยมาดูแลส่งกำลังใจ และส่งข่าวสารให้ผมรับรู้เป็นระยะๆ
วันนี้คุณกิตติหลับสบายไปแล้ว หลังล้มป่วยอยู่ระยะเวลาหนึ่ง จากลาภรรยาและลูกตลอดจนเพื่อนพ้องมิตรสหายทั้งที่พิการและไม่พิการไว้กับแปลงเพาะชำกล้าไม้ไว้ขึ้นปลูกป่าที่เชื่อว่าจะมีผู้สานต่อไปไม่หยุดลง
ร่างของคุณกิตติถูกฌาปณกิจไปแล้ว แต่ความดีของนักต่อสู้ยังคงส่งเสียงก้องหุบเขาต่อไป
เราจะระลึกถึงและคาราวะในหัวใจที่เข้มแข็งของคุณเสมอ
ดีใจและภูมิใจที่เราเคยไปตะลุยสารพัดภารกิจมาด้วยกัน ทั้งจัดงานเฟรนลี่ดีไซน์ งานมหกรรมอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวลต่อเนื่องหลายๆปี งานดูแลสนับสนุนบรรดาทูตอารยสถาปัตย์ที่ออกสำรวจข้อมูล ทดสอบเส้นทาง ทดสอบห้องน้ำ ทางลาด และอีกมากมาย ดีใจที่เราหลายคนได้ร่วมกันยกอุ้มคุณกิตติทั้งรถเข็นขึ้นไปชมปากถ้ำหลวงที่ขุนน้ำนางนอน ที่จ.เชียงราย ดีใจที่ผมได้นำคณะอนุกรรมาธิการการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนของวุฒิสภา ไปขึ้นเขาเข้าเยี่ยมและประกาศมอบรางวัลยกย่องความมุ่งมั่นสร้างมหัศจรรย์แห่งหัวใจของผู้ที่ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา
ขอส่งพรและความรักไปประคองให้ดวงจิตของคุณกิตติได้เดินทางสู่สัมปรายภพอันอบอุ่นและร่มรื่น
ความดีงามที่คุณกิตติสร้างไว้จะถูกจารึกบอกต่อให้โลกยกย่อง และเดินตาม
ตามรอยล้อ..ที่คุณกิตติเพียรเข็น เพียรลากและสร้างรอยไว้ให้พวกเราว่าต้องไม่ท้อถอย ในการทำสิ่งที่ดีต่อโลก ดีต่อครอบครัว ดีต่อสิ่งแวดล้อม
และดีต่อหัวใจ....
ขอคาราวะ
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
1 พฤษจิกายน 2568






Lead Speaker ในหัวข้อ"นโยบายการลงทุนและแรงจูงใจ สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียว"

30 ตุลาคม 2568 คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ทำหน้าที่ Lead Speaker ในหัวข้อ"นโยบายการลงทุนและแรงจูงใจ สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียว สู่การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ร่วมกับ ดร.นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI คุณกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคุณเชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นักแสดง ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืน ในเวที ผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ Climate Action Leaders Forum รุ่นที่4 ซึ่งเป็นหลักสูตรอบรมผู้นำระดับสูงขององค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน) ที่อาคารสโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ




ร่วมกิจกรรมการแถลงข่าว "โปรสู้ฝุ่น ..ลดPM2.5 ด้วย โครงการ Green List Plus "
29 ตุลาคม 2568 คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ร่วมกิจกรรมการแถลงข่าว "โปรสู้ฝุ่น ..ลดPM2.5 ด้วย โครงการ Green List Plus " ที่ห้องประชุมใหญ่ กรมควบคุมมลพิษ โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานแถลง และมี ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลง และมี ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นส.จิตภัสร์ กฤดากร ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้อำนวยการสสส. เข้าร่วมในกิจกรรม
สำหรับ โครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น ลด PM 2.5” นี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ อาทิ กระทรวงพลังงาน กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนภาคประชาสังคท เช่น สภาลมหายใจกรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบายฝุ่น PM 2.5 จากการขนส่ง ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์ขนาดเล็กเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จะสามารถลดการเกิดมลพิษและฝุ่นควันในไอเสียรถยนต์ได้อย่างมาก เพราะจากการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะสามารถลดควันดำได้มากกว่า 50% จึงส่งผลต่อเนื่องให้ฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เช่นกัน และในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและค่ายรถยนต์ให้กา+รสนับสนุนจัดโปรโมชั่นต่อที่ 1 ให้ส่วนลดราคาค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ และให้ส่วนลดราคาค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่และค่าแรงสูงสุดถึง 50% สำหรับรถยนต์ที่เข้ารับบริการกับศูนย์บริการรถยนต์ 9 แบรนด์ คือ อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ฮีโน่ ฟอร์ด และซูซูกิ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน 1,745 ศูนย์บริการ หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ค้าน้ำมัน 5 แห่ง คือ ปตท. บางจาก เชลล์ พีที และโมบิล และศูนย์บริการบีควิก ที่เข้าร่วมโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น ลด PM 2.5” และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวหรือ Green List Plus กับกรุงเทพมหานครจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่อที่ 2 จากเครือข่ายเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กส์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอดวานส์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในการให้สิทธิการจอดรถยนต์ฟรีเพิ่มเติมในห้าง เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และโลตัส ได้รับบัตรกำนัลค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS และส่วนลดราคาสำหรับการซื้อ พรบ.รถยนต์หรือประกันภัยรถยนต์ผ่าน AIS
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองได้ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนนำรถยนต์เข้ามารับการบริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ดังสโลแกนที่ว่า “ตรวจสภาพรถกันสักนิด ลดมลพิษฝุ่นได้”

ศูนย์นิสิตจิตอาสา มศว. โครงการอากาศสะอาด
ศูนย์นิสิตจิตอาสา มศว. โครงการอากาศสะอาด : สิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน ทวงคืนอากาศสะอาด ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ น้องๆสนใจ ตั้งใจ และท่าทางติดใจจะทำกิจกรรมขยายผลกันต่ออีกแยะ น่าปลื้มใจมากครับ
น้องๆออกแบบเวที กันเอง และมีประกาศการเริ่มกิจกรรมด้วยการเชิญทุกคนในห้องยืนสงบถวายอาลัยแด่สมเด็จพระพันปีฯกันเองด้วย


