ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
กิจกรรม Library Talk หัวข้อ Soft Power : อำนาจแห่งการสร้างสรรค์ สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ของ หอสมุดรัฐสภา

16 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการจัดกิจกรรม Library Talk หัวข้อ Soft Power : อำนาจแห่งการสร้างสรรค์ สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ของ หอสมุดรัฐสภา ที่ห้องกิจกรรมชั้น บี1 อาคารรัฐสภา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง ‘’ พลังภาคประชาสังคม กับ Soft Power “ โดยมีใจความสรุปว่า เมื่อใดที่เราคิดว่าอะไรบ้างเป็น Soft Power ได้ เราควรต้องคอยตรวจทานตนเองเสมอด้วยว่า นอกจากช่วยให้ขายของได้แล้ว เราจะใช้Soft Power ทำอะไรได้อีก เช่น สร้างศักดิ์ศรีความน่าเคารพนับถือในเวทีสากล ตัวอย่างจากความสามัคคี เสียสละเพื่อร่วมกันช่วยทีมนักฟุตบอลเยาวชนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้ทำให้โลกชื่นชมคนไทย น้ำใจไทยในการดูแลกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เงินก็ซื้อมาให้เราไม่ได้ วัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในบุคลิคของเราคือยิ้มแย้มและยืดหยุ่น แต่ที่ควรปรับปรุงคือต้องอย่าปล่อยให้หย่อนยาน… ‘’
ในการนี้ นายวีระศักดิ์ยังได้มอบหนังสือตำรากฏหมายโบราณเป็นจำนวน 59เล่ม ซึ่งเป็นกลุ่มหนังสือหายากให้เป็นสมบัติของหอสมุดรัฐสภาด้วย เช่นหนังสือ’’คำอธิบายพระราชบัญญัติในปัจยุบัน’’ รวบรวมโดย พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ พระบิดากฏหมายไทย ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีอายุกว่าร้อยปี และมอบหนังสือ ‘’ประมวลสนธิสัญญา’’ ซึ่งรวบรวมตั้งแต่สนธิสัญญาราชอาณาจักรสยามกับราชอาณาจักรอังกฤษเป็นต้นมา โดยมีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางเพลินพิศ เพชรเจริญ ประธานเปิดกิจกรรม Library Talk และผู้อำนวยการกองวิชาการ สภาผู้แทนราษฎร และผู้บังคับบัญชากลุ่มงานหอสมุดรัฐสภาเป็นผู้รับมอบ
จากนั้นเวทีอภิปรายได้รับเกียรติจาก สส.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ สส.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และศาสตราจารย์ ดร.กิตติ ประเสริฐสุข หัวหน้าสาขาวิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันเสวนาตามหัวข้อ Soft Power : อำนาจแห่งการสร้างสรรค์ สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีนางสาวพัชราวลัย เด่นนิติรัตน์ ดีเจรายการวิทยุรัฐสภา เป็นผู้ดำเนินรายการเสวนา






หอสมุดรัฐสภา ขอเชิญร่วมฟัง Library Talk ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ "Soft Power:อำนาจแห่งการสร้างสรรค์สู่สังคมแห่งการเรียนรู้"

การปาฐกถาพิเศษหัวข้อ การเสวนาหัวข้อ Soft Power: "พลังภาคประชาสังคมกับ อำนาจเห่งถารสร้างสรรค์ Soft Power สู่สังคมแห่งการเรียนรู้"
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา
ศาสตราจารย์กิตติ ประเสริฐสุข หัวหน้าสาขาวิชาการระหว่างประเทศ
นางสาวพัชราวลัย เด่นนิติรัตน์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ดำเนินรายการ
รับชมเสวนาออนไลน์ได้ที่ วันอังคารที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ LIVE Streaming เวลา o๘.๓๐-๑๒.00 นาฬิกา ผ่านระบบอินทราเน็ต สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องประชุม บี ๑-๑ หอสมุดรัฐสภา ชั้น บี ๑ อาคารรัฐสภา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ ต่อ ๕๗๑๑
ขอเชิญรับฟัง “กฎหมายสำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม”

วันนี้ 14 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00-10.00 น. ขอเชิญรับฟัง “กฎหมายสำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม” โดย คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ในรายการ Talk The Paper Thailand ทางวิทยุครอบครัวข่าว ส.ภร.FM106
วีระศักดิ์เชียร์ให้กระบี่โกกรีน มุ่งคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

กระบี่-ยังเหนียวแน่น นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา ครองเก้าอี้นายกสมาคมโรงแรมสมัย 2 พร้อมเดินหน้าขับกระบี่สู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป
วันที่ 10 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสามัญประจำปี 2562-2564 ของสมาคมโรงแรมจ.กระบี่ ณ โรงแรมกระบี่รีสอร์ท ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ มีวาระการเลือกตั้งนายกสมาคมโรงแรมจ.กระบี่คนใหม่ โดยนางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย ซึ่งนายกสมาคมโรงแรมจ.กระบี่ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกและประกาศจะนำโรงแรมฝ่าวิกฤตต่างๆ ไปให้ได้ โดยเชื่อว่าธุรกิจจะมีการแข่งขันกันสูงและเชื่อว่ากระบี่ เป็นที่หมายตาของนักลงทุนที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจที่พักแรมเพิ่มแน่นอน
ในการประชุมครั้งนี้ สมาคมโรงแรม จ.กระบี่ ได้เชิญนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมาขึ้นเวทีบรรยาย ในหัวข้อ “ท่องเที่ยวกระบี่กับทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว ททท.ปี 2566 ‘’
ส่วนไฮไลต์ของกิจกรรมครั้งนี้อยู่ที่ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่กรุณาเดินทางมาขึ้นปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ’’ BCG Economy และยุทธศาสตร์ กระบี่สู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน’’
โดย นายวีระศักดิ์ ปาฐกถาใจความตอนหนึ่งว่า ‘’…การที่กระบี่ประกาศโกกรีนมาตั้งแต่กว่า 10ปีที่ผ่านมาและใจแข็งยืนหยัดธำรงทิศทางนี้อย่างเหนียวแน่น เป็นสิ่งน่าชื่นชมยิ่ง สิ่งที่ตนอยากเสนอเพิ่มคือการกระบี่ไม่ได้มีดีเฉพาะที่ชายฝั่งหรือเกาะแก่งที่งดงามเท่านั้น แต่บนฝั่งของกระบี่มีอีกหลายพื้นที่ที่ทรงเสน่ห์ เข้าถึงไม่ยากและมีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่น่าสัมผัส หากมีการใช้นโยบายที่ยิ่งกว่า BCG คือใช้ ESG จะยิ่งทำให้กระบี่มีความสุขที่ยั่งยืนยิ่งกว่า
เพราะ BCG เน้นเฉพาะสิ่งแวดล้อมซึ่งจำเป็นมาก แต่จะทรงพลังมากขึ้นถ้าเสริมด้วย S คือ social participation หรือ social responsibility ไม่ทิ้งใครอยู่ข้างหลัง พาให้ชาวสวนชาวประมงมีส่วนร่วมรับประโยชน์จากการท่องเที่ยวโดยชุมชน กับเพิ่มที่ตัว G คือ Good Governance หรือเน้นความมีธรรมาภิบาลในการบริหารทุกด้าน ใช้ความโปร่งใสให้เข้าถึงง่ายสำหรับทุกฝ่าย แล้วการโกกรีนของกระบี่จะมีพลังเสริมที่มั่นคงยิ่ง…’’
สุดท้ายคือการพยายามหาความรู้มาทำงานกับทั้ง Green Economy และเฟ้นความรู้ที่จะทำงานด้าน Blue Economy
เพราะกระบี่มีข้อเด่นให้ต้องรักษาและพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ได้ในทั้ง 2 ด้าน











ปาฐกฐาพิเศษเรื่อง "ความพร้อมประเทศไทยกับการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์"

5 สิงหาคม 2565 ในการปาฐกฐาพิเศษเรื่อง "ความพร้อมประเทศไทยกับการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์" ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งานการประชุม Thailand Research Expo 2022 ห้องย่อยด้านการท่องเที่ยวบนฐานมรดกทางธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซนทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ จัดโดย บพข. สกสว. กระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวถึงความเป็นไปของตลาดผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสรุปว่า
สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการและชุมชนท่องเที่ยวต้องระมัดระวัง ในการตอบสนองตลาดที่อ่อนไหวต่อภาวะโลกร้อนและภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ก็คือ การเร่งเรียนรู้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของตัว และทำความเข้าใจถึงผลกระทบทั้งในทางบวกและลบที่กิจกรรมต่างๆในพื้นที่บริหารของตนมีต่อสิ่งแวดล้อม จากนั้นออกแบบการปรับปรุงกิจกรรมของตนและของsupply chain
ประการที่สองคือต้องระวังอย่าให้พลาดในการทำเรื่องสิ่งแวดล้อมที่อาจตั้งใจดีแต่มีความรู้ไม่รอบ จนถูกมองว่าเป็นเพียง"การฟอกเขียว หรือ Green wash" แต่เบื้องหลังยังคงไม่คำนึงถึงระบบนิเวศน์ทั้งที่มีทางเลือกอื่นได้
ประการที่สาม คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติตามกฏหมายควรประกาศนโยบายและแผนเรื่องนี้ในระดับชาติแล้วส่งสัญญาณไปให้ถึงคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในคลัสเตอร์ต่างๆทั่วประเทศ ในการพัฒนาแผนและติดตามผลความคืบหน้า รวมถึงการทำข้อเสนอด้านการเงินการคลังด้านการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบไปสู่คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานต่างๆเพื่อทำให้มีระบบสนับสนุนในการทำให้การท่องเที่ยวไทย’’เป็นเครื่องมือ’’ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและปัญหาโลกร้อน ได้มีพลังยิ่งขึ้น
ประการที่สี่ เป็นเรื่องดีที่การท่องเที่ยวในยุคหลังๆเริ่มให้น้ำหนักกับกิจกรรมที่ทำ มากกว่าจะสนใจแต่ว่าได้ไปสถานที่ใด การเดินทางท่องเที่ยวใกล้ๆบ้านแต่ก็อาจจะให้ความพึงพอใจสูงกว่าเมื่อได้ทำกิจกรรมที่มีคุณค่าและสื่อความหมายที่ดีทั้งต่อตนเอง สังคมและโดยเฉพาะ ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์
ประการที่ห้า ความรู้ที่ไทยเคยศึกษาสังเกตและวิจัยเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ยังสามารถลงทุนเพิ่มเติมได้อีกมาก ทั้งระบบนิเวศน์บนบกและในทะเล ความรู้ที่จำเป็นเหล่านี้มีแต่จะเป็นทั้งปัญญาและประโยชน์ในการสร้างศักดิ์ศรีและสร้างความน่าเชื่อถือในการวางposition ของการท่องเที่ยวไทยในการท่องเที่ยวโลก
ประการสุดท้าย ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นทุนที่มีคุณค่ามาก ขอเพียงเราเอาใจใส่กับระบบนิเวศน์อันซับซ้อนของเรา เราจะพบพืช แมลง สัตว์ และความสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านี้ต่อสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาเล่าแลกเปลี่ยนให้สังคมได้รู้ เราก็จะได้การท่องเที่ยวและความรับผิดชอบที่ผู้คนต่างๆทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ภายในและนอกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเข้ามาสัมผัส เพื่อช่วยคุ้มครอง และช่วยรักษากลไกทางธรรมชาติอย่างมีความมุ่งหมายที่ยั่งยืนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี หากจะมีสูตรการคำนวณค่าคาร์บอนฟุตปริ้นท์ที่มีมาตรฐานที่พอรับกันได้อย่างคร่าวๆ ในไทย สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญและทำให้สนุกสนานได้ จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มคณะ ของครอบครัว และของบุคคลมีเครื่อมือวัดผลหรือวางแผนในการปรับปรุงวิธีเดินทางและทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างน่าสนใจ
‘’…สตรีทฟู้ดของไทยเป็นมากกว่าสีสรรของการท่องเที่ยว เเต่สตรีทฟู้ดคือที่พึ่งสำคัญของประชากรผู้บริโภคในยุคที่ความมั่นคงทางอาหารของโลกกำลังมีความเสี่ยง และสตรีทฟู้ดเป็นหนทางเลี้ยงชีพของคนขายส่วนใหญ่ สิ่งที่เราต้องช่วยพัฒนาคือการสนับสนุนการจัดการสุขอนามัยของสตรีทฟู้ดทั้งสิ่งที่จะอยู่บนจานและที่จะทิ้งเป็นขยะอินทรีย์ เช่นเดียวกัน ที่เราสามารถเพิ่มกิจกรรมการปล่อยผีเสื้อหรือผึ้งชันโรงในช่วงใดช่วงหนึ่งของโปรแกรมท่องเที่ยวที่ไปอยู่ในเขตชายป่าหรือบริเวณที่ยังไม่มีการใช้เคมีการเกษตรที่เข้มข้นนัก แล้วใช้โอกาสอย่างนั้นให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวให้ทราบถึงผลดีของการกระทำดังกล่าวว่าดีต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมอย่างไร…’’ นายวีระศักดิ์กล่าว
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------

