ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
ตัวแทนคณะกรรมาธิการพรบ.ปรับเป็นพินัยฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายจนกฏหมายผ่านวาระสามสำเร็จ
วันที่ 3 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 09.30น. ที่ อาคารรัฐสภา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ…. พร้อม นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ และสส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ในฐานะ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของรัฐสภา เรื่องกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ซึ่งเป็นกฎหมายเพื่อการปฏิรูป ที่ผ่านความเห็นชอบวาระ3 จากการประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อเย็นวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยนายวีระศักดิ์ ชี้ว่า …’’นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญอีกครั้งของวงการปฏิรูปกฏหมาย และนับเป็นความก้าวหน้าของการทำงานนิติบัญญัติของไทย ที่สามารถ ‘’ออกกฏหมายกลาง’’ เพื่อ’’ลดรูป’’โทษปรับทางอาญาในกฎหมายไทยที่มีเป็นจำนวนมากนับร้อยๆฉบับให้ลงมาเหลือเป็นการชำระค่าปรับเป็นพินัยได้แทน
สำหรับโทษปรับสถานเดียวนั้น ปกติจะเป็นกรณีความผิดเพียงเล็กน้อย ที่ไม่ถึงขั้นที่ทางอาชญาวิทยาเห็นว่าต้องจำคุก แต่โทษปรับนั้นก็ได้ทำให้เกิดปัญหา ที่ผู้เขียนกฏหมายในอดีตมิได้เจตนาจะให้เกิด ได้แก่
(1)เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการเมืองทันทีที่คนยากจนต้องโทษปรับ ซึ่งเมื่อใดไม่มีเงินชำระค่าปรับ กฏหมายให้ต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ ส่วนคนรวยเมื่อชำระค่าปรับแล้วก็เท่ากับคดีอาญาเลิกไป กลับบ้านได้ จึงกลายเป็นความเหลื่อมล้ำที่พึงแก้ไข
(2) ไทยมีกฎหมายจำนวนมาก การแก้ไขทีละพระราชบัญญัติจึงยิ่งจะใช้เวลานานมาก ดังนั้นการมีกฏหมายกลางจึงสามารถช่วยได้ และใช้เวลาสั้นกว่าในการตรา เพราะร่างกฏหมายนี้เป็นร่างกฏหมายที่รัฐบาลเสนอรัฐสภาในนามกฏหมายสำคัญที่ต้องใช้เพื่อการปฏิรูปประเทศ จึงไม่ต้องผ่านมติทีละสภา คือสภาผู้แทนราษฎรทีกนึ่ง โดยมีการตั้งคณะกรรมาธิการมาพิจารณาทีหนึ่ง แล้วจึงจะไปวุฒิสภา มีอีกคณะกรรมาธิการมาพิจารณาแล้วจึงจะไปถึงวาระสองและสาม จึงจบขั้นตอน แต่เมื่อเป็นกฏหมายเพื่อการปฏิรูป รัฐธรรมนูญยอมให้นำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมร่วมของรัฐสภาอย่างนี้ ตั้งคณะกรรมาธิการชุดเดียวที่มีทั้งสส.และสว.นั่งพิจารณาร่วมกัน จากนั้นนำร่างที่คณะกรรมาธิการแก้ไขเสร็จมาเข้าห้องประชุมใหญ่ของรัฐสภาได้เลย จึงประหยัดเวลาได้มากกว่า
(3) ในบางกรณีเมื่อมีการกระทำความผิดโดยผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่นไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตติดป้าย ไม่ได้ยื่นเอกสารรายงานประจำปีตามกฏหมายบางฉบับ หรือทำไปด้วยความยากจนเหลือทนทาน เช่น ลักทรัพย์เพื่อประทังชีพของตนหรือของลูกหรือผู้ป่วยด้วยเหตุจำเป็น ทนหิวไม่ไหวแล้ว แต่แม้เจ้าทุกข์ไม่อยากเอาเรื่องต่อก็ยังไม่มีบทบัญญัติกฏหมายที่จะให้ยุติคดีอาญาได้ในชั้นตำรวจ ทำให้เกิดความทุกข์ทรมานของการที่จำเลยและผู้เกี่ยวข้องยังต้องติดคากันไปในคดีอาญาจนกว่าจะคดีสิ้นสุด แต่ร่างกฏหมายปรับเป็นพินัยจะช่วยให้สามารถดำเนินการให้ได้ข้อยุติทางอาญาได้รวดเร็วและยืดหยุ่นกว่ามาก ไม่ว่าจะในชั้นเจ้าพนักงานหรือในชั้นศาล
(4) การดำเนินการตามคดีอาญา มักต้องมีการจับกุมคุมขัง พิมพ์ลายนิ้วมือและทำบันทึกประวัติอาชญากร อันเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ทั้งๆที่อาจเป็นเหตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กฏหมายการปรับเป็นพินัยจึงมิให้บันทึกเป็นประวัติอาชญากรรมและเมื่อดำเนินการตามกฏหมายนี้แล้วเสร็จก็ให้คดีอาญานั้นๆเป็นอันยุติไป กับให้ล้างประวัติอาชญากรรมเดิมของความผิดเล็กน้อยเหล่านั้นออกไปด้วย
(5) การต้องโทษในความผิดที่มีเพียงการปรับนั้น หลายกรณีกลับทำให้เกิดการใช้โทษอาญาเฟ้อ (over criminization) ซึ่งย่อมกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังเพิ่มภาระงานในกระบวนการยุติธรรมมากเกินจำเป็น ซึ่งกฏหมายการปรับเป็นพินัยจะช่วยแก้ไขประเด็นนี้ได้
(6) กฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยมีผลให้ 174 พระราชบัญญัติในบัญชีที่หนึ่ง ที่มีโทษปรับสถานเดียวถูกลดรูปลงใน1ปี และจะมีผลกับอีก 33 พระราชบัญญัติในบัญชีที่สอง ก็ลดรูปลงตามไป เมื่อครม.เสนอพระราชกฤษฎีกามาให้สภาแล้วสภาไม่มีมติไม่เห็นชอบใน 60วัน
ดังนั้น เมื่อกม.นี้มีผลใช้บังคับ เจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฏหมายข้างต้นก็จะได้ สามารถพิจารณาเรียกค่าปรับเข้าหลวง โดยไม่ถือว่าเป็นโทษทางอาญา ไม่ต้องถูกจับกุมคุมขังและไม่ต้องทำประวัติอาชญากร
และในกรณีที่ผู้ทำผิดมีความยากจนเหลือทนทาน กฏหมายนี้ก็ยังกำหนดให้จำเลยหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อพิจารณา ลด หรืองดค่าปรับ หรือให้สามารถผ่อนชำระ หรือให้ไปทำงานบริการสังคมหรือการทำสาธารณะประโยชน์แทน ก็ได้
ดังนั้น ร่างกฏหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย จึงเป็นกฏหมายที่มีประโยชน์สำคัญแก่ระบบกฏหมาย เป็นคุณต่อประชาชน และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมลงได้ อีกทั้งเป็นการลดภาระงานที่ควรลดได้ในกระบวนการยุติธรรม…’’
นายวีระศักดิ์กล่าว
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------
ปั่นร้อยใจไทย-เกาะกง
29 กรกฎาคม 2565 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาของไทย พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายอำเภอคลองใหญ่ ร่วมกิจกรรมปั่นร้อยใจ ไทย-เกาะกง กับ คุณหญิงมิถุนา ภู่ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ของกัมพูชา โดยมี ท่าน Kater Mohammatt Norssri รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของกัมพูชาเดินทางมาร่วมต้อนรับจากกรุงพนมเปญ
ในการนี้มีนักปั่นจักรยานจากทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาเข้าร่วมปั่นถึง 500 คนผ่านเส้นทางทั้งจากอำเภอคลองใหญ่ของจังหวัดตราด ผ่านด่านชายแดนทั้งสองประเทศ ข้ามสะพานใหญ่ที่ทอดข้ามแม่น้ำสตึงงัมหรือแม่น้ำคลองคืน จนไปจุดแวะพักรับประทานอาหารก่อนวกกลับที่ศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งฝ่ายไทยเคยมาสร้างมอบไว้ที่บริเวณที่ทำการตำบลของบ้านบางคายัค ซึ่งติดกับป่าชายเลนขนาดใหญ่นับหมื่นไร่ของจังหวัดเกาะกง ของกัมพูชา
นับเป็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเมืองชายแดนทั้งสอง คือจังหวัดตราดและจังหวัดเกาะกงของกัมพูชาหลังผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิด19-เป็นครั้งแรก ในช่วง3ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เคยจัดกิจกรรมปั่นร้อยใจ ไทย-เกาะกงมาแล้วสองครั้งก่อนโควิดจะระบาดไปทั่วโลก
‘’กิจกรรมเชื่อมไมตรีภาคประชาสังคมอย่างนี้ นอกจากจะดีต่อความสัมพันธ์แล้ว ยังเป็นการสร้างการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon และท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่ดีเยี่ยม รวมทั้งได้การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เชิงวัฒนธรรมมาเพิ่มให้ผูกพันแน่นแฟ้นขึ้นด้วย’’ นายวีระศักดิ์กล่าว
อนึ่ง เมื่อสิ้นสุดกิจกรรม รายได้ค่าลงทะเบียนร่วมกิจกรรมที่หักค่าใช้จ่ายแล้วก็จะถูกส่งไปสมทบกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวของพื้นที่ต่อไป
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------
ปั่นร้อยใจ ไทย-เกาะกง มิตรภาพ ผ่าน 'โลว์คาร์บอน'
"...สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและนาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวมาร่วม 'ปั่นร้อยใจไทย-เกาะกง ครั้งที่ 3' จากขอบชายแดนไทยที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ผ่านด่านพรมแดนเพื่อเข้าสู่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมคาราวานนักปั่นจักรยานชาวไทยและชาวกัมพูชารวมกว่า 500 คนครับ สนุก และได้เห็นศักยภาพใหม่ๆ ระหว่างไทยและกัมพูชาอีกเพียบ..."
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและนาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวมาร่วม 'ปั่นร้อยใจไทย-เกาะกง ครั้งที่ 3' จากขอบชายแดนไทยที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ผ่านด่านพรมแดนเพื่อเข้าสู่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมคาราวานนักปั่นจักรยานชาวไทยและชาวกัมพูชารวมกว่า 500 คนครับ สนุก และได้เห็นศักยภาพใหม่ๆ ระหว่างไทยและกัมพูชาอีกเพียบ
ด่านชายแดนนี้น่าจะเป็นแห่งเดียวในไทยที่ขณะเดินผ่านด่านบนบก จะมองเห็นชายทะเล รับลมทะเลจากฝั่งขวา และรับลมภูเขาที่สดชื่นจากซ้ายมือ สภาพแวดล้อมธรรมชาติของพื้นที่นอกเขตด่าน สวยงามมาก
คนไทยโดยมากรู้จักตราด ผ่านภาพจำของเกาะช้าง เกาะกูด และเกาะหมาก เป็นส่วนใหญ่ แต่คนไทยยังไม่มากนักที่จะเคยมาสุดเขตแดนสยามที่ติดกัมพูชาทางชายฝั่งทะเล
น่าสนใจยิ่งในการเร่งความร่วมมือ ส่งเสริมและดึงดูดการท่องเที่ยวของชาวโลกให้เข้ามาเยือนสามประเทศในการเดินทางคราวเดียว (one trip-3 countries) และเชื่อมการท่องเที่ยว 5 เกาะ ตั้งแต่ เกาะฟูก้วกในเวียดนามใต้-เกาะกงนอกในกัมพูชา-เกาะกูด-เกาะหมาก-และเกาะช้างในไทย
เพราะอะไร…
เพราะถนนสาย R 10 ที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ให้ทุนสร้าง เชื่อมถนนเก่าในกัมพูชา ซึ่งเชื่อมตั้งแต่ชายแดนไทยผ่านเมืองชายฝั่งต่างๆในกัมพูชาไปจนสุดทางที่ชายฝั่งเวียดนามนั้น ทำเสร็จแล้ว ขาดช่วงกลางๆอีกนิดหน่อยเท่านั้น
สนามบินที่จังหวัดตราดของบางกอกแอร์เวย์กำลังขยายรันเวย์ให้เป็นสนามบินนานาชาติเพื่อรับเครื่องบินใหญ่ๆได้ในไม่ช้า และจะบินเชื่อมเกาะสมุยเข้ามาเพิ่ม
ส่วนสนามบินที่จังหวัดเกาะกง (ซึ่งเป็นชื่อจังหวัดบนแผ่นดินใหญ่ …ไม่ใช่เกาะ) ก็กำลังมีแผนจะขยายให้เป็นสนามบินนานาชาติ เหมือนกับที่สนามบินเมืองสีหนุวิลล์ที่เป็นสนามบินนานาชาติไปก่อนแล้ว
สนามบินเหล่านี้จะทำให้นักเดินทางนานาชาติเข้ามาสู่เมืองชายฝั่งเวียดนาม กัมพูชา และไทยได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยต้องเข้าเฉพาะที่สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา หรือสนามบินที่โฮจีมินท์ซิตี้เท่านั้น
แปลว่าทางบก ทางอากาศส่งคนไปมาหาสู่สะดวกขึ้น
ที่มา https://www.isranews.org/article/isranews-article/110906-weerasak-6.html
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------
รู้จักกฎหมายฉีดไข่ฝ่อป้องกันทำผิดซ้ำทางเพศ พูดคุยกับ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา
27 ก.ค.65 ในรายการห้องข่าวรัฐสภาแชนแนลภาคค่ำ ช่วง "ประเด็นเป็นข่าว" ทางโทรทัศน์รัฐสภา ช่อง 10 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
.
Online : http://tpchannel.org/tv/live
.
#TPchannel #ฉีดไข่ฝ่อ #ข่มขืน #กฎหมาย #คดีทางเพศ
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------
แสดงพลังภาคประชาสังคมของไทยที่พร้อมสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานจัดแสดงครั้งสำคัญระดับโลกของประเทศ
25 กค. 2565 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในวงการท่องเที่ยวเดินทางและการดูแลระบบสุขภาพและการสาธารณสุข ของไทย ร่วมกิจกรรมเลี้ยงต้อนรับ ประธานและคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเมืองเจ้าภาพการจัดนิทรรศการ Specialized World Expo 2028 ซึ่งมีประธานเป็นชาวฝรั่งเศส และมีกรรมการที่มาจากชาติต่างๆเดินทางมาประเทศไทยเป็นประเทศแรกใน 5 ประเทศที่เสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพการจัดงานSpecialized World Expo 2028 คืออีก6ปีข้างหน้า โดยไทยเสนอ ภูเก็ตเป็นเมืองเจ้าภาพสำหรับการจัดงาน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังภาคประชาสังคมของไทยที่พร้อมสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานจัดแสดงครั้งสำคัญระดับโลกของประเทศ
เช้านี้คณะกรรมการฯคัดเลือกเมืองเจ้าภาพ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล แล้วจะบินลงไปเยือนภูเก็ตเพื่อสำรวจศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ ตลอดถึงความพร้อมของประชาคมในพื้นที่ครับ
เมืองคู่แข่งกับเราตอนนี้เหลือ 4 แห่งครับ
สหรัฐ เสนอตัวจะจัดที่แมนิโซต้า
สเปน เสนอตัวจะจัดที่เกาะมะลาก้า
อาร์เจนตินา เสนอตัวจะจัดที่ เมืองเซนคาลอส
เซอร์เบีย เสนอตัวจะจัดที่ กรุงเบลเกรด
การประเมินความพร้อมจะทำ 3 รอบ หลังจากรอบนี้จะมาประเมินอีกที่พย.นี้ แล้วไปประเมินกลางปีหน้า แล้วประกาศเมืองที่ชนะเลิศเลย เพื่อให้เมืองนั้นมีเวลาเตรียมการได้ทัน ไทยจะใช้พื้นที่ราชพัสดุขนาดใหญ่ใกล้หาดไม้ขาว ของภูเก็ต ซึ่งใกล้สนามบินภูเก็ตเป็นสถานที่หลัก
ซึ่งหากไทยได้เป็นเจ้าภาพงานนี้จริง เราจะได้รับกิจกรรมจัดนิทรรศการนานราว 4 เดือน จะมีทั้งทีมงานสร้างอาคารแสดงของชาติต่างๆเข้ามาก่อสร้าง ประกอบบูธและพาวิเลียนกว่า 100ประเทศ และจะมีผู้เดินทางมาเข้าชมงานหลายล้านคนในช่วงเวลาจัดงาน คาดประมาณการรายได้ที่ไทยจะได้รับจากกิจกรรมนี้ ราว 49,000ล้านบาท ทีเดียวครับ
----------------------------------------
ที่มา www.weerasak.org / https://www.facebook.com/Weerasak-Kowsurat
----------------------------------------