ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
บรรยาย เรื่อง ‘Tourism Thailand : What’s the Future “
14 มิถุนายน 2565 คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง ‘Tourism Thailand : What’s the Future “ ในกิจกรรมการอบรมหลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่4 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ ห้อง ออดิทอเรี่ยม ชั้น 6 ทรูดิจิทัลปารค์ ถนน สุขุมวิท
โดยมีคุณนิธี ศรีแพร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านดิจิทัล วิจัยและการพัฒนาให้การต้อนรับ
ร่วมรายการกฤษณะทัวร์ยกล้อ ตอนการออกแบบจัดทำอารยสถาปัตย์วัดเขาทำเทียม สุพรรณบุรี
13 มิถุนายน 2565 คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมคณะเดินทางกับคุณกฤษณะ ละไลย บันทึกเทปรายการ กฤษณะทัวร์ยกล้อ ตอน การออกแบบจัดทำอารยสถาปัตย์ที่วัดเขาทำเทียม จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยมี ผู้จัดการ อพท.อู่ทองให้การต้อนรับและนำชมการเตรียมติดตั้งลิฟต์ความสูง 10 ชั้นที่หน้าผา ของพุทธมณฑลสุพรรณบุรีที่วัดเขาทำเทียม ที่จะเชื่อมกับทางเดินกระจกใสที่เกาะติดกับผนังหินของภูเขา อันจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรีที่ สะดวก สะอาดปลอดภัย เข้าถึงได้ง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกและเป็นมิตรกับคนทั้งมวล
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า’’…หุบเขานี้เป็นสิ่งที่เหลืออยู่ของสัมปทานระเบิดภูเขาเอาหินไปขาย ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว สภาพป่าจึงเสียหายไปมาก ที่นี่ยังมีลิงป่าอยู่เยอะ
เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลก์ มาพบเข้าจึงขออนุญาตกรมป่าไม้หลังยุติสัมปทาน ขอนำมาทำเป็นอุทยานพุทธมณฑลของสุพรรณบุรี
ที่นี่มีบ่อน้ำที่เกิดจากขุมเหมือง มีอุโมงค์ในเขาที่เจาะทะลุไปโผล่อีกด้านของเขา
หินของภูเขานี้แข็งกว่าหินอ่อน แต่ยังไม่แข็งเท่าแกรนิต ท่านเจ้าอาวาสจึงหาช่างสลักหินเชี่ยวชาญมาสลักองค์พระใหญ่ และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้รับงบกลุ่มจังหวัดมาติดตั้งจัดทำภูมิสถาปัตย์และอารยสถาปัตย์ ให้ประชาชนสามารถขึ้นชมวิวจากที่สูงของผนังภูเขา วิวที่มองออกไปจะเห็นเมืองอู่ทอง แหล่งโบราณคดียุคทวารวดี วิวไกลออกไปเป็นพื้นที่ อำเภอดอนเจดีย์
บนสกายวอลค์มีลมพัดเรื่อยๆ ตลอดเวลา เมื่อเปิดให้ขึ้นเป็นทางการคาดว่าจะดึงดูดกลุ่มเดินทางทั้งครอบครัวได้อย่างดี เพราะเส้นทางสะดวก ห่างจากกรุงเทพเพียงชั่วโมงเดียว ที่นี่มีห้องน้ำทางลาด ป้ายบอกและจุดจอดคนพิการ มีทางลาดไปถึงทุกจุดตั้งแต่จึดจอดไปจนถึงองค์พระและจุดอื่นๆ
ที่นี่มีลานจัดกิจกรรมทางธรรมะ สามารถจัดกิจกรรมได้ถึงกลางคืนหรือแม้แต่ตั้งเต้นท์ส่องดาวยามดึกที่น่าสนุกเพราะมีความปลอดภัย มีสถานีไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ของที่นี่อยู่ที่อีกด้านของภูเขา
ดังนั้น ที่นี่จึงสามารถมุ่งสู่การเป็น zero emission ได้เมื่อระบบทุกอย่างส่งมอบเสร็จต่อไปครับ…’’
ร่วมรายการกฤษณะทัวร์ยกล้อตอน การออกแบบจัดทำอารยสถาปัตย์ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี
13 มิถุนายน 2566 คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมบันทึกเทปรายการ กฤษณะทัวร์ยกล้อ ตอน การออกแบบจัดทำอารยสถาปัตย์เพิ่มเติม ของวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยมีท่านไวยาวัจกรวัดฯ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี และรองผู้อำนวยการททท. สำนักงานสุพรรณบุรีให้การต้อนรับ
คณะฯได้รับฟังแผนการออกแบบปรับปรุงบริเวณต่างๆสำหรับวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร โดยทีมทำงานของ รศ.ดร.ชุมเขต แสวงเจริญ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันได้แก่จุดจอดรถสำหรับผู้พิการ ทางลาดข้ามซุ้มหน้าวิหารหลวงพ่อโต ทางลาดขึ้นสู่วิหาร ทางลาดในวิหาร และทางลาดข้ามขั้นบันไดไประเบียงแก้ว และการปรับปรุงห้องน้ำเพื่อผู้พิการ
‘’ช่วงนี้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์อยู่ระหว่างบูรณะ ลงรักใหม่สีดำก่อนจะปิดทองทั้งองค์ใหม่ องค์ท่านเนื้อในเป็นปูนปั้นที่ตันแน่นทั้งองค์ เป็นพระใหญ่ปางป่าเลไลยก์ศิลปะอู่ทอง มีรูปปั้นปูนนูนต่ำของช้างชูงวงถวายกระบอกน้ำดื่มและลิงถวายรวงผึ้งอยู่ที่เสาใหญ่ของอาคาร คาดว่าองค์พระอาจสร้างมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 1724 แปลว่าท่านน่าจะมีอายุอย่างน้อย 842 ปี เดิมทีองค์ท่านอยู่กลางแจ้ง ภายหลังมาในสมัยรัชกาลที่4 จึงโปรดฯให้สร้างอาคารพระวิหารคลุมถวาย เพราะเคยพบพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรีองค์นี้ขณะทรงผนวชทรงเดินธุดงค์มาในบริเวณนี้มาก่อน จากนั้นยังโปรดให้สร้างองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเดียวกับหลวงพ่อโสธรที่ในพระวิหารนี้อีก2องค์ แล้วพระราชทานตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลมาติดที่วัดนี้ และยกระดับเป็นพระอารามหลวง
ในระหว่างที่คณะของเรากำลังกราบ องค์หลวงพ่อโต มีคณะสงฆ์เดินทางไกลมาจากจังหวัดสมุทรปราการ เราเลยได้ร่วมสวดมนต์ไปกับคณะสงฆ์ด้วยความปิติ
คณะสงฆ์รับรู้ถึงกิจกรรมที่อุบาสิการ่วมกับคุณโยมฝ่ายต่างๆ มาขอจัดทำอารยสถาปัตย์ถวายในวัดจึงพากันอนุโมทนาไปด้วย นับเป็นกุศลอย่างยิ่ง
นายวีระศักดิ์กล่าว หลังจากรับฟังประวัติขององค์พระ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการปรับปรุงทางลาดจุดต่างๆ จากทีมผู้ออกแบบแล้ว จากนั้นทดลองนั่งวีลแชร์ร่วมกับ คุณกฤษณะ ชมภาพเขียนฝาผนังเรื่อง ขุนช้างขุนแผน และสำรวจความลาดชันของทางลาดเดิมที่เคยมีอยู่ในบริเวณระเบียงแก้วรอบพระวิหาร
บรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘’ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและบริการอย่างไรให้มั่นคงยั่งยืน’’
9 มิถุนายน 2566 ในโอกาสการจัดกิจกรรมสัมมนาวิชาการ ครบรอบ 60 ปีการสถาปนามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ ‘’ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและบริการอย่างไรให้มั่นคง ยั่งยืน’’
จากนั้นเป็นการอภิปรายเรื่อง ข้อคิดเห็นจากภาคธุรกิจต่อรัฐบาล โดยประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แล้วเป็นการเสวนาร่วมกันของนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) นายกสมาคมโรงแรมไทย นายกสมาคมภัตตาคารไทย นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) โดยมี รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้า กล่าวต้อนรับ ที่ UTCC Event Lab อาคาร 23 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร
กิจกรรมครั้งนี้จัดโดยความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยหอการค้า และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเอเชียและแปซิฟิก (PATA) ประจำประเทศไทย
ร่วมอภิปราย ‘’Good Practices of Thailand and Spain in the Tourism Sector : Opportunities for Collaboration“
8 มิถุนายน 2566 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นเป็นผู้ร่วมอภิปรายในการสัมมนา ในหัวข้อ ‘’ Good Practices of Thailand and Spain in the Tourism Sector : Opportunities for Collaboration “ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา โดยมีทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ นักวิชาการจากสถาบันการศึกษา สื่อมวลชนต่างประเทศเข้าร่วมด้วยความสนใจ
กิจกรรมครั้งนี้ จัดโดย สถาบันเทวะวงศ์วโรปการ ร่วมกับ สถาบัน Casa Asia แห่งประเทศสเปน ในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองชาติ จัดกิจกรรม Thailand-Spain Forum ครั้งที่ 1
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า’’…สเปนเป็นประเทศที่ได้รับปริมาณนักท่องเที่ยวนานาชาติมากถึง 83.7ล้านคน ในปี2019 ซึ่งนับว่าสูงเป็น 2 เท่าของจำนวนประชากรสเปน โดยสเปนมีพื้นที่เท่าๆกับประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวจำนวน39.8 ล้านคน นับเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรไทย แต่ด้วยระบบการจัดการที่มีประสบการณ์และมีประสิทธิภาพสูง จึงทำให้สามารถกระจายนักท่องเที่ยวออกจากเมืองหลักไปยังเมืองรองด้วยวิธีต่างๆทั้งด้วยระบบรถไฟ ระบบปฏิทินกิจกรรม รวมทั้งการมีมาตรฐานทางการท่องเที่ยวที่ดีมาก นับเป็นตัวอย่างที่สามารถให้ไทยใช้ศึกษาได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าด้านการท่องเที่ยวที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Tourism for All) ความปลอดภัยทางการท่องเที่ยวทางน้ำ ทางทะเล การประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน…’’
‘’…ส่วนสิ่งที่ควรพิจารณาส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันที่สำคัญที่สุดคือ การเร่งให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างสเปน-ไทยกลับมาให้บริการอีกครั้ง …’’นายวีระศักดิ์กล่าว
หมายเหตุ: ชาวไทยเดินทางไปเยือนสเปนปีละ 2 หมื่นรายเศษ และชาวสเปนเดินทางเยือนไทยปีละกว่า 2 แสน 5 หมื่นราย