ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
อภิปรายในเวทีเสวนาวิชาการ ‘’บทบาทภาคเอกชนกับความมั่นคงของชาติ’’
14 กรกฎาคม 2566 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นวิทยากรร่วมกับ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย อภิปรายในเวทีเสวนาวิชาการ ‘’บทบาทภาคเอกชนกับความมั่นคงของชาติ’’ ที่ห้องประชุมประชาสนเทศ สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต
โดยนายวีระศักดิ์ชี้ว่า ท่องเที่ยวมิใช่เป้าหมายแต่เป็นเครื่องมือต่างหาก ขึ้นกับว่าจะใช้เป็นเครื่องมือทำอะไร นอกสร้างเศรษฐกิจ จ้างงานตลอดจนรองรับผลผลิตสินค้าจากภาคชุมชน ผลผลิตภาคเกษตร และเพิ่มลูกค้าให้ภาคขนส่งเดินทางแล้ว ยังสามารถเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำ ใช้สร้างสันติภาพในพื้นที่ขัดแย้ง ใช้สร้างบรรยากาศการเรียนรู้สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมเดินทาง
‘’…การนำนักท่องเที่ยวนั่งเรือออกไปชมวาฬในอ่าวไทย ปกติต้องใช้เวลาชั่วโมงเศษจึงจะไปถึงบริเวณที่วาฬจะปรากฏตัว หากเราใช้เวลาระหว่างนั่งเรืออธิบายให้ผู้โดยสารทราบว่า แพลงตอนพืชในทะเล คือผู้ผลิตออกซิเจนกว่า65% ของโลกและคือผู้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์กลับไปไม่น้อยกว่า30%จากชั้นบรรยากาศ ดังนั้น วาฬที่เหลือเพียงล้านตัวทั่วโลกนี้เท่านั้น ที่เป็นผู้เดินทางปล่อยมูลอันเป็นสารอาหารหลักที่แพลงตอนทั่วโลกต้องการ และทำให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นักท่องเที่ยวก็จะตระหนักและเคารพระบบนิเวศน์อันเปราะบางนี้ได้ และระมัดระวังในเรื่องขยะทะเลมากขึ้น …’’
‘’ถ้าเรามองว่า ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ ความมั่นคงจากการมีอากาศสะอาด เป็นความมั่นคงของชาติที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความมั่นคงทางเศรษฐกิจ …การสื่อสารเพื่อคุ้มครองวาฬ และรักษามหาสมุทรก็เป็น จิตวิทยาเพื่อความมั่นคงได้แบบหนึ่งเช่นกัน’’
อนึ่ง นายวีระศักดิ์ยังได้ชี้ให้เห็นหลัก ESG หรือการดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการมีธรรมาภิบาลเสมอในทุกขั้นตอน ก็จะทำให้กิจการนั้นเป็นผู้มีส่วนสร้างความยั่งยืนให้กับชาติเช่นกัน
‘’…ขอเพียง สนใจ เข้าใจ และตั้งใจ ทำให้ต่อเนื่อง ปัญหาใดๆก็จะแก้ไขได้ป้องกันได้ กับขอเพียงฝึกฝนทักษะในการสื่อสารที่มีพลังต่อเนื่องให้เพียงพอ…’’นายวีระศักดิ์กล่าวในตอนท้าย
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระกุศลแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระกุศลแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566) เวลา 10.00 น. ณ ห้องโสมกิติยาภา สำนักงานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีถวายพระพรชัยมงคล แด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 13 กรกฎาคม 2566 โดยมี คณะกรรมการ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เข้าร่วมพิธีฯ
พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีถวายพระพรชัยมงคล ในวันนี้ประกอบพิธีโดยคณะสงฆ์ รวม 10 รูป จาก 10 วัดนำโดย
พระพุทธพจนวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
พระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
พระพรหมวชิรากร เจ้าอาวาสวัดราชผาติการามวรวิหาร
พระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
พระเทพวชิรสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
พระราชมหาเจติยาภิบาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
พระราชภาวนาพัชรญาณ เจ้าอาวาสวัดเขาวง
พระราชบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธาตุทอง
พระครูวิศิษฏ์สรการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร
และพระครูวิบูลอาจารวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
ทั้งนี้คณะสงฆ์ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระกุศลแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
“มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย” เป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งตามพระดำริของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงให้ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกันเกื้อหนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากจากอุทกภัยและภัยพิบัติที่รุนแรง คือการร่วมกัน ระดมองค์ความรู้ นวัตกรรม กำลังแรงกาย ทุนทรัพย์ และ จิตสาธารณะเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างครบวงจร รวมทั้ง การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอ โดยมุ่งเน้นการประทังชีวิตและ การฟื้นฟูสภาพจิตใจ มูลนิธิฯ ตลอดระยะเวลา 28 ปี มูลนิธิฯปฏิบัติงานและยึดหลักภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน
เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยหรือภัยพิบัติต่าง ๆ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โปรดให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สภากาชาดไทย จัดตั้ง “โรงครัวพระราชทาน” ประกอบอาหารปรุงสุกสำเร็จและเชิญ “ถุงยังชีพพระราชทาน” มอบให้แก่ผู้ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจในช่วงอุทกภัย ทั้งนี้พระองค์จะเสด็จไปยังพื้นที่ประสบภัย ทรงประกอบอาหารและประทานถุงยังชีพฯ แก่ผู้ประสบภัยด้วยพระองค์เองหากไม่ติดภารกิจใด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน ต่อให้เส้นทางยากลำบากขนาดไหนก็ทรงไม่ย่อท้อ แม้มิได้เสด็จไปเยี่ยมผู้ประสบภัย หรือประทานถุงยังชีพฯ ด้วยพระองค์เองได้ หากแต่ยังคงมีรับสั่งให้กรรมการและเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างทันท่วงที ให้คลายความลำบากโดยเร็ว นอกจากนี้ถุงยังชีพพระราชทานและการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานก็จะต้องเป็นของที่ดีที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบภัย ดังพระดำรัส
“...ของที่บรรจุในถุงยังชีพพระราชทานนั้นเกินจำนวนที่จัดได้ แต่ห้ามขาด...”
เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง ‘’การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม’’
10 กรกฎาคม 2566 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เรื่อง ‘’…การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม…’’ ในหลักสูตรการอบรม ‘’นิติกรชำนาญการพิเศษของส่วนราชการ ‘’จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่โรงแรมปริ้นเซส หลานหลวง
โดยนายวีระศักดิ์ได้บรรยายให้เห็นความสัมพันธ์ของระบบนิเวศน์ของโลกที่เชื่อมถึงกันอย่างซับซ้อน เช่น สภาวะก๊าซเรือนกระจก สภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ระบบการไหลเวียนของอุณหภูมิและสารอาหารในมหาสมุทรโลก บทบาทอันสำคัญยิ่งของแพลงตอนกับการผลิตออกซิเจนและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของโลก ปัญหาการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้จากแปลงเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมในอวกาศ ฝุ่นควัน และเครื่องมือในร่างกฏหมายอากาศสะอาด ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง เอลนิโญ่ -ลานินญ่า ปัญหาขยะพลาสติก และขยะทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพที่กำลังสูญเสียและจะมีผลกระทบร้ายแรงหากไม่สามารถทำความเข้าใจร่วมกันได้ ตลอดจนอธิบายถึงหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนที่นักกฏหมายภาครัฐพึงตระหนักทราบ
กมธ.กีฬา วุฒิสภา จัดเสวนา เรื่อง “เส้นทางนักกีฬาอาชีพ และโอกาสอาชีพที่เกี่ยวกับกีฬา”
วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม หมายเลข 402-403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา ใน คณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา จัดเสวนาเรื่อง “เส้นทางนักกีฬาอาชีพและโอกาสอาชีพที่เกี่ยวกับกีฬา” โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนา และพันตำรวจเอก ขจรเกียรติ ศรีพันธุ์ อนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนจากภาคเอกชน อาทิ สมาคมกีฬาอาชีพ สโมสรกีฬาอาชีพ สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย สถาบันอุดมศึกษาโรงเรียน บริษัทผู้ให้การสนับสนุนด้านการกีฬา บริษัทเอเย่นนักกีฬา และผู้แทนจากกลุ่มผู้ปกครองนักกีฬาที่ให้ความสนใจ เข้าร่วมการเสวนา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า กีฬาอาชีพ คือ กีฬาที่จัดการแข่งขันอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล และมีนักกีฬาอาชีพเข้าร่วมแข่งขันกัน ซึ่งกีฬาอาชีพเป็นกิจกรรมกีฬาที่นานาประเทศให้ความสำคัญและเป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แก่นักกีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาอาชีพ อีกทั้งการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาอาชีพหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกีฬาอาชีพ ยังเป็นปัจจัยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศ
พันตำรวจเอก ขจรเกียรติ ศรีพันธุ์ อนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนากีฬายอดนิยมให้เกิดเป็นกีฬาอาชีพและส่งเสริมนักกีฬาที่มีศักยภาพให้ได้เป็นนักกีฬาอาชีพในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งภารกิจด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจากการที่ส่งเสริมกีฬาและอุตสาหกรรมกีฬา จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องทราบถึงเส้นทางสู่ความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาอาชีพและอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬาจึงได้จัดเสวนาในครั้งนี้ขึ้น โดยเชิญผู้ปกครองของนักกีฬาอาชีพซึ่งเป็นผู้สนับสนุนขั้นต้นที่จะทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ ผู้ฝึกสอนนักกีฬาซึ่งเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำและวางแผนเส้นทางให้นักกีฬาก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในการใช้กีฬาเป็นอาชีพ และผู้ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันระดับโลก ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการกีฬา
การจัดเสวนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางการก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ หรืออาชีพนักกีฬา รวมถึงเปิดมุมมองให้เห็นว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬามีอะไรบ้าง นอกจากนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมรับฟังการเสวนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค ความท้าทาย รวมทั้งนำเสนอแนวทางในการที่จะสนับสนุนนักกีฬาสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพหรือการส่งเสริมอาชีพที่เกี่ยวกับกีฬา เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬาได้นำไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการนำไปสู่การผลักดันและสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป โดยเชิญวิทยากรผู้ที่มีประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ได้แก่ นายธนัช อัศวนภากาศ อดีตผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพ และรองเลขาธิการสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ นายดัสกร ทองเหลา นักฟุตบอลอาชีพ สโมสรเมืองทองยูไนเต็ด นายสมบูรณ์ จุฑานุกาล ผู้ปกครองนักกีฬากอล์ฟอาชีพ (นางสาวเอรียา จุฑานุกาล “โปรเม” และนางสาวโมรียา จุฑานุกาล “โปรโม”) นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ประธานสถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) และนางสาววิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
โอกาสนี้ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองประธานคระกรรมาธิการการกีฬา และประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา กล่าวสรุปผลการเสวนาและกล่าวปิดการเสวนา
ที่มา
ร่วมปาฐกถาพิเศษ การขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยให้เป็นหนึ่ง
สมาชิก สทท. สื่อมวลชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยว เข้าร่วมการแถลงข่าวและการประชุม
ใหญ่สามัญประจำปี 2566
ในวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566 เวลา 11.00 - 17.00 น.
ณ ห้องประชุมแคทลียา โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ
9.30 น. ประชุมคณะกรรมการ สทท.
11.00 น. แถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย และอัพเดตสถานการณ์ท่องเที่ยว
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
13.30 น. แถลงนโยบาย สทท. ปิ๊บริหาร 2566-2568
14.00 น. ปาฐกถาพิเศษ "การขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยให้เป็นหนึ่ง
โดย
ㆍคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฟ้า
ㆍ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ㆍคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการ ททท.
ㆍ คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ. สสปน.
ㆍคุณชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท
15.00 น. การประชุมใหญ่สามัญประจำปี สทท. 2566