บรรยายเรื่อง เศรษฐกิจการท่องเที่ยว-อย่างยั่งยืน ในหลักสูตรนักบริหารระดับสูง ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม (นบธ.26)

2 ตุลาคม 2566 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา บรรยายเรื่อง เศรษฐกิจการท่องเที่ยว-อย่างยั่งยืน ในหลักสูตรนักบริหารระดับสูง ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม (นบธ.26) จัดโดยมูลนิธิสถาบันวิทยาการธรรมศาสตร์เพื่อสังคม ที่อาคารสมาคมธรรมศาสตร์ ซอยงามดูพลี ถนนพระรามสี่ กรุงเทพ

พิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการประกวดสื่อสร้างสรรค์ หัวข้อ “ทำไมไทยจึงมีสองสภา”

วุฒิสภา จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการประกวดสื่อสร้างสรรค์ หัวข้อ “ทำไมไทยจึงมีสองสภา” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการมีระบบสองสภา วันที่ 29 กันยายน 2566 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องฟังการประชุมสำหรับประชาชน ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะอนุกรรมการติดตามการสร้างสรรค์การประชาสัมพันธ์วุฒิสภา ในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการประกวดสื่อสร้างสรรค์ หัวข้อ “ทำไมไทยจึงมีสองสภา” โดยมี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานในพิธี นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานอนุกรรมการติดตามการสร้างสรรค์การประชาสัมพันธ์วุฒิสภา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ อนุกรรมการฯ นางสุนี จึงวิโรจน์ อนุกรรมการฯ นักเรียน นักศึกษา ครูที่ปรึกษา และประชาชนที่เข้าร่วมการประกวด เข้าร่วมพิธี
.
นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวให้โอวาทแก่ผู้เข้าร่วมการประกวดว่า รัฐสภาเป็นองค์กรด้านนิติบัญญัติที่มีความสำคัญยิ่งต่อระบอบการเมืองการปกครองของไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีหน้าที่สำคัญในการออกกฎหมายและตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร การที่ทุกคนได้เข้าร่วมโครงการประกวดสื่อสร้างสรรค์ หัวข้อ “ทำไมไทยจึงมีสองสภา” โดยการแสดงความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับความสำคัญของรัฐสภาถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชน อันถือเป็นหลักการพื้นฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการจัดโครงการฯครั้งนี้ประสบผลสำเร็จเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการมีระบบสองสภา อันได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต่อการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หวังว่าผลงานสื่อสร้างสรรค์ที่ได้จากการประกวดครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อเป็นการขยายผลเกี่ยวกับความสำคัญของการมีระบบสองสภาให้กับผู้อื่นต่อไป โอกาสนี้ ได้มอบรางวัลเป็นรางวัลชมเชยพิเศษ ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรสำหรับผู้ร่วมทีม จำนวน 3 ทีม และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรสำหรับผู้ร่วมทีม จำนวน 4 ทีม รวมจำนวนผู้เข้ารับเกียรติบัตรในครั้งนี้ 80 คน
.
สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลชมเชยพิเศษ จำนวน 3 ทีม ประกอบด้วย 1. ผลงาน “Why 2 สภา by M.I.S.H.E” 2. ผลงาน “สภาคู่ together” และ 3. ผลงาน “บริษัท รักเมืองไทย จำกัด (มหานิยม)” รางวัลชมเชย จำนวน 4 ทีม ได้แก่ 1. ผลงาน “ความสำคัญของสองสภาไทย” 2. ผลงาน “สภาคู่ประชาชน” 3. ผลงาน “สุริยันจันทรา สองสภาไทยหัวใจสมานฉันท์” และ 4. ผลงาน “สองสภาเป้าหมายเดียวกัน”
.
โอกาสนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ ได้บรรยายให้ความรู้และแนะนำห้องประชุมวุฒิสภา พร้อมนำคณะเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม “สัปปายะสภาสถาน” ด้วย

สัมมนายุทธศาสตร์การเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของภูเก็ต (1st Andaman Sustainable Tourism Forum)

ชมไลฟ์สดย้อนหลังได้ที่ https://fb.watch/nldlOUU6q4/

วันที่ 28 กันยายน 2566 ณ โรงแรมรามาด้า เจ้าฟ้า จังหวัดภูเก็ต มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน จัดงานสัมมนา 1st Andaman Sustainable Tourism Forum โดยในครั้งนี้ มีการทดลองจัดกิจกรรม Left over Chefs table ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ชิมเป็นตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่ยังมีเหลือจากการจำหน่ายในแต่ละวันจากห้องครัวมาสร้างสรรค์ปรุงเป็นอาหารเมนูใหม่ๆ เพื่อทำให้วัตถุดิบอาหารเหล่านั้นยังสามารถเป็น ‘’food (before )waste ‘’ ที่น่าสนใจได้เป็นอย่างดี

จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมลงนามกรอบความร่วมมือการทำงานเพื่อพัฒนาข้อมูลSustainable Tourism Data Intelligence โดยมีสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่(องค์การมหาชน) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มูลนิธิพัฒนาท่องเที่ยวยั่งยืน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) กรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ และองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก ร่วมลงนาม

สำหรับพิธีเปิด มีประธานมูลนิธิพัฒนาท่องเที่ยวยั่งยืน นายภูมิกิตต์ รักแต่งามกล่าวรายงาน นายอำนวย พิณสุวรรณ กล่าวต้อนรับ จากนั้นเป็นการกล่าวเปิดโดย นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษเรื่อง “มิติความยั่งยืน ESG กับการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย” โดยนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จบแล้วเป็นการอภิปรายเวทีในเรื่อง “ปลุก…เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทย” โดยมีคุณน้ำฝน บุณยะวัฒน์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นาวาอากาศเอก อธิคุณ ทองมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คุณเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ ผศ.ดร.ไพทูรย์ มนต์พันทอง คณบดีคณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นวิทยากรร่วมอภิปราย

จากนั้นเป็นการบรรยายเรื่อง “รอยเท้าคาร์บอนในการท่องเที่ยว” ในประเทศไทย จากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก และการให้ข้อมูล เรื่อง ‘’สถานการณ์ขยะพลาสติกในทะเลไทยในปัจจุบัน ‘’จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เพจ Phuket Tourism Association และมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน
………………………………

ชมไลฟ์สดย้อนหลังได้ที่ https://fb.watch/nldlOUU6q4/

เสวนา ในหัวข้อ ‘’พลิกโฉมท่องเที่ยวไทย สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน’’

22 กันยายน 2566 ที่ห้องพิมานสยาม โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก สำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดให้มีเวทีเสวนา ในหัวข้อ ‘’พลิกโฉมท่องเที่ยวไทย สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน’’ โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และน้องอาย กมลเนตร เรืองศรี พิธีกรนักแสดง และ influencer สายกรีน ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมสนทนาบนเวที

โดยมี นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา เป็นผู้กล่าวต้อนรับ เปิดงาน และบรรยายสรุปนโยบาย ตลอดถึงทิศทางการดำเนินงานส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวของ ททท.และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน

โดยนายวีระศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการความยั่งยืนที่กำลังเป็นประเด็นหลักอย่างรวดเร็ว และทะลุทะลวงเข้าไปถึงใจกลางของทุกวงการ และสังคม ตลอดจนการเรียกร้องจากทุกตลาดที่ต่างคาดหวังจะเห็นความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคและใช้ชีวิตของมนุษย์ไปในทางที่คำนึงถึง ระบบนิเวศน์ธรรมชาติ ระบบคุณค่าทางสังคม การลดความเหลื่อมล้ำ และการพิทักษ์ธรรมาภิบาลในทุกกิจกรรม

‘’…นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ออกเดินทางเพื่อค้นและเปรียบเทียบประสบการณ์ใหม่ๆ ไทยจึงควรหาทางส่งมอบประสบการณ์ที่ให้ทั้งความรู้ ความละเอียดอ่อนแต่มีสีสรร แถมยังสนุก เกี่ยวกับการจัดการให้เกิดพฤติกรรมที่ยั่งยืน ตั้งแต่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ การนึกถึงผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก ว่าเขาจะเข้าถึงจุดต่างๆได้อย่างไร การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ท่องเที่ยว low carbon แม้แต่เที่ยวแบบ carbon neutral หรือในที่สุดอาจสามารถออกแบบถึงจุดที่เป็น net zero ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนทั้งนักท่องเที่ยว เปลี่ยนทั้ง supply chain ของวงการท่องเที่ยวในไทย ทั้งจากระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ระดับกิจการ และระดับชุมชนหรือบุคคล ที่เน้นเรื่องความเป็นธรรม และความเอื้อเฟื้อต่อปัจจัยรอบข้าง…’’นายวีระศักดิ์ระบุ

ส่วนอาย กมลชนกกล่าวเสริมว่า ‘’…อายเขียนหนังสือ อายทำคลิปเล่าเรื่องประสบการณ์ท่องเที่ยวบนออนไลน์แบบหยอดมุมความรู้ให้ผู้ติดตามเสมอ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการใส่ใจกับบทบาทของผู้คนตัวเล็กๆที่มีเรื่องราวอันน่าประทับใจ อายเชื่อว่ามันเหมือนการหยอดเมล็ดเอาไว้ ต้องค่อยๆให้น้ำพรวนดินไปเรื่อยๆแล้วสิ่งนั้นจะเติบใหญ่ไปจนได้เอง

ปิดท้ายกิจกรรมเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และรับฟังประโยชน์ของเครื่องมือกำกับความยั่งยืนระดับองค์กรที่มีมาตรฐานสากล เช่น มาตรฐาน ISO26000 และกรอบ AA1000SES โดยนาย ชัย วงศ์อาจ กรรมการผู้จัดการ ซีดับบลิวเค คอนซัลติ้ง