ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
ร่วมในพิธีกดปุ่มเปิดกิจกรรมอบรม ผู้นำการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 3 (Climate Action Leaders #3)
วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาในฐานะ Keynote speaker ของโครงการ ได้รับเชิญขึ้นร่วมในพิธีกดปุ่มเปิดกิจกรรมอบรม ‘’ ผู้นำการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 3 (Climate Action Leaders #3) องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพ
โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณเป็นประธานกล่าวเปิด
โดยในหลักสูตร 6 สัปดาห์นี้ มีผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการอบรมจากองค์กรชั้นนำในไทยจำนวน 69 คน เช่น เลขาธิการกลต. ประธานบริษัทเชลล์ ประเทศไทย เลขาธิการบีโอไอ เลขาธิการกฤษฎีกา ประธาน เชฟรอน ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปลัด กทม. เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น
นำคณะกรรมาธิการฯ สำรวจศึกษาตัวอย่าง "ป่าในกรุง"
8 กุมภาพันธ์ 2567 ประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะกรรมาธิการฯไปสำรวจศึกษาตัวอย่าง ‘’ป่าในกรุง ’’ ซึ่งบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน)ลงทุนซื้อที่ดินเอกชนที่เคยเป็นกองขยะรกร้างจำนวน 12 ไร่ ในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร มาพัฒนาให้กลายเป็นนิเวศป่ากลางเมือง ด้วยแนวคิดสถาปนิกญี่ปุ่น ดร.มิยาวากิ อากิระ ที่ต้องการเลียนแบบป่าท้องถิ่นธรรมชาติ เน้นให้พืชหลากชนิด หลากเรือนชั้น แข่งกันโตในแนวพุ่งสูงขึ้นสู่ฟ้า โดยปลูกต้นไม้อย่างน้อย 5 ต้นต่อตารางเมตร
จากนั้นสร้างทางเดินชมธรรมชาติที่ยกระดับต่างๆขึ้นจนถึงเรือนยอดไม้ และต่อด้วยหอคอยสูงเท่าอาคาร 9 ชั้น เพื่อให้สามารถชมสวนป่ากลางกรุงได้ด้วยวิว 360 องศา
จากประสบการณ์ปลูกป่าล้านไร่ ของสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. ที่นี่จึงเรียนรู้ที่จะรวบรวมดินปลูกตัวอย่างจากทั่วภาคกลาง รวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่เคยมีในเขตกรุงเทพเเละปริมณฑลมาไว้กว่า 270 ชนิด
เริ่มโครงการเมื่อ 2557 แบ่งพื้นที่เป็นสระน้ำ 10% ใช้เป็นที่ตั้งอาคารดินเพื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้ 15% อีก 75%ใช้ปลูกป่า ที่มีทั้งโซนไม้เบญจพรรณ ป่าผลัดใบไปจนถึงป่าชายเลน
เพียง 10ปีผ่านไป ที่นี่ดึงดูดให้ได้พบเจอนกนานาพันธุ์ที่หาชมยาก เข้ามาปรากฏตัวมากถึง 74 ชนิด จาก 37 วงศ์
ที่นี่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ (มีกิจกรรมนำชมทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หากทำการจองเวลานัดหมายไว้ล่วงหน้า )
ที่นี่ยังอนุญาตให้หน่วยงานและกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ามาขอใช้สถานที่เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ’’ปลูกป่าในใจคน ‘’และกิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ‘’ที่นี่เป็นตัวอย่างของการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมุมมองด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ที่อัตคัตอย่างมหานครใหญ่ นับเป็นกรณีที่ควรแก่การยกย่อง และเหมาะสมต่อการผลักดันนโยบายสนับสนุนทางเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม เช่นการได้รับยกเว้นภาษีที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง การได้รับอัตราค่าไฟฟ้าสาธารณะ การใช้เป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางวิชาการ การฝึกปฏิบัติด้านการเพาะเลี้ยงกล้าไม้ สำหรับคนเมืองต่อไป…’’
ECON Plus วีซ่าฟรี...“ไทย-จีน” กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นท่องเที่ยวได้มากแค่ไหน
หลังจากรัฐมนตรีว่า การกระทรวงต่างประเทศไทยและจีน ร่วมลงนามข้อตกลงยกเว้นข้อกำหนดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวของกันและกัน ซึ่งจะมีผล 1 มี.ค. 67 เป็นต้นไป...มีสิ่งที่จะต้องจับตาตามมา
วีซ่าฟรี...“ไทย-จีน” กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นท่องเที่ยวได้มากแค่ไหน จะเป็นสัญญาณบวกนำไปสู่อะไรบ้าง และจะแก้ปัญหาจีนเทาอย่างไร
.
ชวนคิด ชวนคุยไปด้วยกันกับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ติดตามได้ใน ข่าวเด่นฯ ECON Plus ทุ่มตรง-ค่ำวันนี้ ดำเนินรายการโดย วารินทร์ สัจเดว
สมาชิกวุฒิสภาไทยได้รับเชิญเป็นผู้ขึ้นกล่าวในการเปิดเทศกาลภาพยนตร์ Moscow Film Days
29 มกราคม 2567 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อดีตเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ของไทย ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีกับ รัฐมนตรี ด้านวัฒนธรรมของนครมอสโก และคณะ ในความร่วมมือระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)และวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย จับมือร่วมกับวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของรัสเซีย หนึ่งในประเทศที่มีวงการภาพยนตร์ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่อีกแห่งของโลก ที่จัดให้มีงานเทศกาลภาพยนตร์ Moscow Film Days เป็นครั้งแรกในไทย ที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์
โดยมีเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยและคณะทูตจากต่างประเทศพร้อมคู่สมรส ผู้แทนการค้าไทย รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และคณะผู้บริหารสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติของไทยที่มาร่วมแสดงความยินดี
ในพิธีเดินพรมแดง มีการจัดถ่ายทอด live สดการสนทนาสัมภาษณ์กับนักบินอวกาศที่ร่วมแสดงในฉากจริงของภาพยนตร์’’ The Challenge “ จากนั้นเป็นกิจกรรมขึ้นกล่าวก่อนเปิดฉายภาพยนตร์ “ The Challenge “ ที่เป็นภาพยนตร์กวาดรายได้สูงสุด 1 ใน 5 เรื่องที่ ฝ่ายรัสเซียนำมาทะยอยเข้าฉายในไทยนับจากนี้ไปถึงเดือนเมษายน
“The Challenge“ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของโลกที่ถ่ายทำในสถานที่จริงในอวกาศ ที่ สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station หรือ ISS) โดยเป็นเรื่องราวของ ศัลยแพทย์ (นำแสดงโดย ยูเลีย พีริซีลด์ ดารานักแสดงสาวของรัสเซีย) ถูกส่งขึ้นโดยการตัดใจของหน่วยกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติของรัสเซีย มุ่งสู่สถานีอวกาศนานาชาติที่โคจรเหนือพื้นโลกที่อยู่เหนือขึ้นไปกว่า 400 กิโลเมตร เป็นการเร่งด่วน เพื่อไปผ่าตัดช่องอกให้นักบินอวกาศที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุในอวกาศ เพื่อหวังให้สามารถกลับลงสู่พื้นโลกได้ปลอดภัย
การถ่ายทำจริงใช้เวลา 12 วันบนอวกาศ ผ่านการเตรียมงานและฝึกฝนนักแสดงและผู้กำกับ ให้ขึ้นไปทำภารกิจในสภาพไร้น้ำหนักและปราศจากแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่นับเดือน นับเป็นมิติใหม่ที่ผู้ชมจะได้ชมภาพยนตร์สนุกจากบรรยากาศในยานอวกาศจริง
ในการนี้ นายเยฟกินี โธมีคิน เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย ขึ้นกล่าวว่าภาพยนตร์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถสะท้อนแนวคิดวิถีชีวิต ของคนในแต่ละสังคม เพื่อให้ผู้ชมจากอีกสังคมสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ง่าย
นายอเล็กเซย์ ฟูซินด์ รัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมของมอสโก ขึ้นกล่าวว่าเป็นความภาคภูมิใจของรัสเซีย ที่ชาวไทยให้ความสนใจมาร่วมกิจกรรมในเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างไทยกับรัสเซียอย่างอบอุ่นคับคั่ง รวมทั้งภาคธุรกิจภาพยนตร์และคอนเทนท์ของไทย ก็เข้าชื่อมาร่วมพบเจรจา Business Matching กับคณะเดินทางภาคเอกชนด้าน ภาพยนตร์และคอนเทนท์ของรัสเซีย กันอย่างหนาแน่นด้วย นับเป็นการเปิดมิติความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และหวังจะได้เห็นการร่วมมือผลิตภาพยนตร์แบบ Co-Production ระหว่างรัสเซียและไทยในอนาคตอันใกล้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ขึ้นกล่าวว่า ในรัสเซียมีการใช้วัฒนธรรมภาพยนตร์ในการขับเคลื่อนสังคมมายาวนาน มีภาพยนตร์สำหรับเข้าโรงฉายในรัสเซียถึงปีละเฉลี่ย 2พันเรื่อง และมีกิจการโรงภาพยนตร์ที่กระจายตัวอยู่มากถึง 2 หมื่นแห่งทั่วรัสเซีย ดังนั้นการร่วมมือระหว่างวงการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยกับรัสเซีย จึงนับเป็นมิติที่ดีในการเสริมพลังทั้งทางเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ภาคประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน
รัสเซียและไทย เริ่มมีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พศ. 2545 และต่อมาขยายเพิ่มเติมใน พศ. 2548 ปัจจุบัน รัสเซียสร้างเมืองภาพยนตร์ (Movie Town) และสวนภาพยนตร์ (Film Park) ขึ้นในกรุงมอสโก จากหมู่โรงงานและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เลิกใช้งานแล้ว เพื่อช่วยให้กองถ่ายรัสเซียและนานาชาติ สามารถเช่าถ่ายทำฉากต่างๆ ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ สามารถจำลองเป็นเมืองใดๆ ในโลกก็ได้ สามารถมีฉากแปลกตาท้าทาย ทั้งบนบก ฉากใต้น้ำจากการใช้ทะเลสาปขนาดใหญ่ในพื้นที่ พร้อมทีมนักดำน้ำสนับสนุน เพื่อให้ผู้กำกับภาพยนตร์สร้างงานตามจินตนาการได้อย่างสะดวก เพราะอยู่ในเขตใกล้เมืองที่มีระบบบริการและสาธารณูปโภค ที่เข้าถึงง่ายจากนครหลวงมอสโกเพียง 25 นาทีทางรถยนต์
ทั้งนี้ เทศกาลภาพยนตร์ Moscow Film Days มีกำหนดจะเปิดฉายภาพยนตร์เรื่อง “The Challenge “ รอบปกติ ในเครือโรงภาพยนตร์SF Cinema ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป และจะทะยอยนำภาพยนตร์ที่คัดเลือกไว้เข้าฉายต่อเนื่องไปให้คนไทยได้ชมไปเรื่อยๆ จนครบทั้ง 5 เรื่องในกลางเดือนเมษายน
'วีระศักดิ์' ส่งมอบหนังสือรับรอง 'GBAC STAR' สู่ 6 สุดยอดผู้บริหารไทย
'วีระศักดิ์' ส่งมอบหนังสือรับรอง 'GBAC STAR' สู่ 6 สุดยอดผู้บริหารไทย หลังได้รับการรับรองมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากลจากสหรัฐฯ 26 ม.ค. 2567 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง 'มาตรฐานสุขอนามัยในกระแสการท่องเที่ยวของสากล' ที่อาคารศูนย์การประชุมบางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุขร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับงานดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว. และประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. กล่าวแนะนำโครงการและนางสาวนวลสมร อุณหะประทีป หัวหน้าโครงการ รายงานผลการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากลจบแล้ว
หลังจากนั้น นายวีระศักดิ์ ก็ได้ขึ้นทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีมอบหนังสือรับรอง การเป็นผู้ได้รับการรับรองมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากล หรือ GBAC STAR ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ให้กับผู้บริหารของไทย 6 แห่งที่ได้รับการรับรองในปีนี้ ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต, ศูนย์การประชุมบางแสนเฮอริเทจ ชลบุรี, บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซนทรัลเวิลด์, บ้านปารค์นายเลิศ, บริษัทนิกรมารีน ภูเก็ต และ บริษัทสุโข เวลเนสแอนด์ สปา จำกัด โดยเมื่อรวมกับที่ได้รับไปรุ่นแรกในปีก่อนหน้าอีก 4 แห่ง คือ ไทเกอร์มวยไทย, ป่าตองเบย์วิว, เกาะยาวใหญ่วิลเลจ และ อ่าวนางปรินซ์วิลล์ รีสอร์ตแอนด์ สปา ก็ทำให้ไทยมีสถานที่ที่ได้รับตรามาตรฐานนี้รวมแล้ว 10 แห่ง
อนึ่ง มาตรฐาน GBAC STAR ได้ถูกใช้ในสถานประกอบการมาตรฐานนับพันแห่งทั่วโลก เช่น สนามบิน JFK, สนามบินลากัวเดียร์, สนามบินนวอค์, ท่าเรือนิวยอร์ก, ท่าเรือนิวเจอร์ซีย์, ศูนย์ประชุมนานาชาติออราเคิลและสนามกีฬาที่แอตแลนตา จอร์เจีย ซึ่งเป็นเมืองเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน เป็นต้น ขณะนี้มีกิจการต่างๆ รอรับการประเมินให้ผ่านการรับรองมาตรฐาน GBAC STAR อีกหลายพันแห่งทั่วโลก
สำหรับการขอรับรองตรามาตรฐาน GBAC STAR ของไทย เป็นการร่วมมือผ่านงานวิจัยที่นักวิจัยและวิชาการจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยงบประมาณจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ทำงานร่วมกับแต่ละสถานที่เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานเดิมที่สถานประกอบการหลายๆ แห่งในไทยเคยพัฒนาระบบมาตรฐานสุขอนามัยผ่านระบบ SHA และ SHA+ ที่ดำเนินการโดยททท.และกระทรวงสาธารณสุขมาก่อนในช่วงรับมือโรคระบาด โควิด19
ดังนั้น ด้วยการดำเนินการเพิ่มการบันทึกเอกสารและขั้นตอนรายละเอียดอีกเพียงไม่มาก ผู้ประกอบการก็เข้าเกณฑ์ที่จะผ่านการประเมินของ GBAC STAR ที่ตลาดสหรัฐฯ, แคนาดา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ให้ความเชื่อถือต่อมาตรฐานนี้อย่างยิ่งได้แล้ว
อีกทั้งผู้ประกอบการต่างพึงพอใจที่นอกจากจะมีตรารับรองที่ตลาดไว้วางใจแล้ว ยังได้มาตรฐานที่สร้างความปลอดภัยให้พนักงานหน้างานของตนเอง มีแผนรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน มีแผนประเมินความเสี่ยงที่อาจมาถึง และมีการเปลี่ยนแปลงที่กระตุ้นให้ Supply Chains และนิเวศของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตื่นตัว และเท่ากับช่วยยกระดับมาตรฐานของการเดินทางและท่องเที่ยวไทยไปด้วย
นอกจากนี้ ผลพลอยได้ที่เกิดจากกิจกรรมคือ นักวิจัยไทยจากโครงการนี้ ซึ่งมีทั้ง มอ.ภูเก็ต และ นิด้า ได้กลายเป็นผู้มีความชำนาญในการออกแบบติดตามและประเมินมาตรฐานตามระบบของ สมาคม ISSA Worldwide Cleaning Industry Association USA และได้รับการรับรองให้เป็นบุคลากรเชี่ยวชาญในการประเมินอิสระให้ GBAC STAR ในระดับภูมิภาคด้วย
ที่มา https://thestatestimes.com/post/2024012636