ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
ร่วมกิจกรรมสนับสนุนงานฟื้นหลักสูตร ‘’โรงเรียนป่าไม้แพร่’’
29 มิถุนายน 2567 อดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ และคณะสมาชิกวุฒิสภาเช่น นายอภิชาติ โตดิลกเวช อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายธานี สุโชดายน นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ศ.ดร.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ร่วมกิจกรรมสนับสนุนงานฟื้นหลักสูตร ‘’โรงเรียนป่าไม้แพร่’’ ที่ สถาบันนวัตกรรมด้านป่าไม้จังหวัดแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา เป็นประธานเปิด
นับเสมือนการชุบชีวิตโรงเรียนป่าไม้แพร่ให้ฟื้นกลับมาเป็นสถาบันการศึกษา มีกิจกรรมหลักสูตรที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนเพื่อรับเป็นเครดิตในระดับปริญญาได้เป็นครั้งแรก หลังโรงเรียนป่าไม้แพร่ของกรมป่าไม้ถูกปิดตัวไปกว่า 30ปี
ทั้งนี้ หลักสูตรที่เปิด นอกจากการเรียนเรื่องการปลูกป่า รักษาป่า การพัฒนาพันธุ์ไม้ป่า การใช้ประโยชน์จากวัสดุที่เก็บได้จากป่ามาทำมูลค่าเพิ่ม เช่นทำถ่านกัมมันต์จากเปลือกไม้ จากฟาง จากขี้เลื่อยแล้ว ยังมีหลักสูตรรุกขกรตัดแต่งกิ่งไม้ การออกแบบผลิตภัณฑ์จากไม้ การตรวจพิสูจน์ไม้ การสกัดสารสำคัญทางชีวภาพจากพืช การเพาะเลี้ยงสัตว์ การบริหารป่าชุมชน การทำสวนป่า การทำฝายในป่า ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ตั้งโรงเรียนป่าไม้แพร่ได้กลับมามีชีวิตชีวา และสามารถถ่ายทอดความรู้ความชำนาญจากผู้มีทักษะความรู้กระจายให้ผู้มาเข้าหลักสูตรได้หลากหลาย
ในอดีตแต่ดั้งเดิมนั้น โรงเรียนป่าไม้แพร่เคยถูกสร้างมาเพื่อสร้างข้าราชการที่จะบรรจุมาทำงานด้านการทำไม้ การชักลากไม้ ซึ่งเน้นการตัดสางเพื่อเปิดพื้นที่ให้ไม้ป่าสามารถเติบโตให้ลำต้นอ้วนพีมากขึ้น แต่ภายหลังเมื่อทางการไทยเปลี่ยนมาใช้การให้สัมปทานตัดไม้แก่เอกชน จึงปิดโรงเรียนป่าไม้แพร่ไป ปรากฏว่าเอกชนที่ได้รับสัมปทานกลับเน้นการตัดไม้ในพื้นที่ให้หมด เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุนที่สุด และยังมักลักลอบตัดไม้นอกเเปลงสัมปทานไว้ด้วย จนเมื่อมาถึงสมัยรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ หลังพายุไต้ฝุ่นเกย์ทำให้เกิดซุงถล่มไหลลงจากเขา ทับหมู่บ้านที่อยู่ตอนล่างมากมาย รัฐบาลจึงสั่งเปลี่ยนนโยบายให้ปิดป่าเลิกสัมปทานทำไม้ทั้งหมดนับแต่นั้น โรงเรียนป่าไม้แพร่จึงยังไม่มีเหตุเปิดขึ้นมาอีก จนภายหลังจากปี 2562 มีการแก้ไขกฎหมายให้คนอยู่กับป่าได้ ยกเลิกการห้ามตัดไม้หวงห้าม ทำให้มีประชาชนปลูกไม้มีค่าเพิ่มขึ้นในที่ดินตนเอง แต่องค์ความรู้ในการบำรุงรักษา และการทำไม้เริ่มหายไป ดังนั้น การฟื้นฟูหลักสูตรทักษะการจัดการป่า การดูแลต้นไม้ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากป่า จึงเป็นฐานความรู้ที่จะทวีความสำคัญต่อการรักษาและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมีคุณภาพได้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อๆ ไป
ประชุมร่วมสภาลมหายใจ 9 จังหวัด ภาคเหนือ
28 มิถุนายน 2567 วีระศักดิ์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ บินประชุมร่วมสภาลมหายใจ 9 จังหวัด ภาคเหนือ ในการประชุมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และถอดบทเรียนการดำเนินงานปี 2567 จัดโดย สสส. สำนัก 2 ที่โรงแรมเอ็มเพรส พรีเมียร์ จังหวัดเชียงใหม่
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ได้รายงานสรุปกิจกรรมของสภาลมหายใจกรุงเทพฯในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และรับฟังข้อมูลความคืบหน้าของกิจกรรมของสภาลมหายใจภาคเหนือ สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจเชียงราย สภาลมหายใจแม่ฮ่องสอน สภาลมหายใจลำปาง สภาลมหายใจลำพูน สภาลมหายใจน่าน สภาลมหายใจแพร่ และสภาลมหายใจพะเยา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์สนาม การทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคมกับหน่วยงานราชการ ภาคธุรกิจ และเครือข่ายชุมชนในแต่ละพื้นที่ในการป้องกันเฝ้าระวังไฟป่า การปรับเปลี่ยนพืชเชิงเดี่ยวไปเป็นพืชที่ไม่ต้องการไฟ การใช้การท่องเที่ยวเชิงชุมชน ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิที่เป็นศูนย์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงปัญหาฝุ่นควัน การสื่อสารสังคมและชุมชน การปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ไฟอย่างมีความรู้ มีความรับผิดชอบของทุกๆฝ่ายในพื้นที่ ตลอดจนการใช้ข้อมูลดาวเทียมในการประเมินความเสี่ยง ติดตามกองไฟ และการกำหนดทิศทางขับเคลื่อนสนับสนุนการพัฒนาร่างพรบ.อากาศสะอาด ที่ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการขอ
สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้โดยมี ดร.นายแพทย์ ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. เป็นประธานเปิดการประชุม และมีคณะนักวิชาการ นักกฏหมาย และนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเข้าร่วมให้ข้อมูลและการสนับสนุนกิจกรรมตลอดทั้งวัน
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ‘’…ผู้นำสภาลมหายใจภาคเหนือทุกจังหวัดมีความรอบรู้อย่างดีในเรื่องข้อมูลดาวเทียม ทั้งเรื่องการอ่านจุดความร้อน การเทียบพิกัด การพล้อตแผนที่คำนวณร่วมกับทางการในการจัดการปัญหาไฟในพื้นที่ การตรวจสอบเปรียบเทียบพื้นที่เผาไหม้ด้วยข้อมูลดาวเทียม และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการย่อยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาฝุ่นควัน การบันทึกสถิติ ซึ่งปรากฏว่าปี2567 จำนวนไฟในป่าและปัญหาฝุ่นควันในแต่ละพื้นที่ลดความรุนแรงลงได้มากจากการใช้ความรู้นำ บางพื้นที่ลดทั้งจำนวนกองไฟและพื้นที่เผาไหม้ลงได้เกินกว่า 60% ในระยะเวลาเฝ้าระวังเข้มงวด…’’
‘’…ความรู้ ทักษะและทัศนคติของผู้นำจากสภาลมหายใจจังหวัดต่างๆน่าประทับใจมาก และเชื่อว่าทางหลุดพ้นจากวิกฤติคุณภาพอากาศในพื้นที่เหล่านี้ชัดขึ้นมาก ต้องขอบคุณในความสามัคคีของทั้งแกนนำและเครือข่าย รวมทั้งขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนที่ดีทั้งจากเอกชน ชุมชน หลวงพ่อ และหน่วยงานที่เน้นการสื่อสารเครือข่าย เช่น สสส. กรมอนามัย แม้เราจะยังต้องเดินทางต่อกันอีกไกล แต่การที่สสส.จัดให้เราได้มาพบเจอกันแบบพบตัว ยิ่งสร้างความมั่นใจและสานพลังเครือข่ายเข้าหากันได้แน่นแฟ้นขึ้นอีก…’’
อนึ่ง ในตอนท้ายของการประชุม ที่ประชุมยังได้รับฟังความสำเร็จของโครงการทำบุญวิถีใหม่ ด้วยการเวียนเทียนด้วยต้นไม้ แล้วนำไปปลูกลงดิน ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา ลดขยะธูปเทียนที่ไม่จำเป็นลง ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่ม และได้ปลูกป่าในใจของทุกคนด้วย
นำร่องจังหวัดเพชรบุรี MOU จัดตั้งองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
เพชรบุรี MOU จัดตั้งองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สร้างอาชีพ รายได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านการ ทท. เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการพัฒนาเส้นทางให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวปาริชาต สุนทรารักษ์ อุปนายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) และสื่อมวลชน ร่วมงานแถลงข่าว “การจัดตั้งองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ จังหวัดเพชรบุรี”
นางวันเพ็ญ ร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การจัดตั้งองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ จังหวัดเพชรบุรี”(Carbon Neutral Tourism Destination Management Organization Model for Phetchaburi Province) ระหว่าง จังหวัดเพชรบุรี กับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และ สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากภาคการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยวและการจัดงาน โดยมีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งเพชรบุรี นับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการต่อยอดพัฒนาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยระยะทางที่ตั้งที่เหมาะสม การมีผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ชุมชน แหล่งท่องเที่ยว และทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย มีเรื่องราวด้านอาหารที่โดดเด่น พร้อมด้วยวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการยกระดับการพัฒนาให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวคุณภาพและเกิดองค์กรที่แข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิดดังกล่าว โดยจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ภายใต้รูปแบบองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism Destination Management Organization) ในการรองรับนักท่องเที่ยวไทยและระดับนานาชาติ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดและยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี สู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและการจัดงานคุณภาพสูง สำหรับตลาดท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Business Travel) และการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน (Leisure Travel) ในระดับสากล เพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในภาพรวมของจังหวัดเพชรบุรี ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน...
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/3579522/
เครือข่ายท่องเที่ยวเพชรบุรีประกาศขับเคลื่อนการท่องเที่ยว Zero Carbon ลดโลกร้อน
ที่อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีวานนี้ (26 มิถุนายน 2567) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อภิปรายนำในเรื่อง ภาวะโลกเดือด -การท่องเที่ยว-และทีมการจัดการในพื้นที่ เพื่อให้เครือข่ายทั้งราชการ เอกชน ท้องถิ่นและชุมชน ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและการเตรียมทีมงานรับมือจากภาวะภูมิอากาศสุดขั้ว โลกเดือด-ทะเลร้อน โดยใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือให้เกิดความสามัคคีและแสดงความมุ่งมั่นที่จะลดก๊าซเรือนกระจกจากการท่องเที่ยว โดยใช้ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
ทั้งนี้ การจัดตั้งองค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism Destination Management Organization) เป็นตัวอย่างความสำเร็จในหลายประเทศที่ช่วยยกระดับทุกห่วงโซ่อุปทานทางการท่องเที่ยวรวมถึงนักท่องเที่ยว ให้มีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบทางลบต่อระบบนิเวศน์จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
นายวีระศักดิ์ได้ยกตัวอย่างถุงไวนิลที่ผลิตจากป้ายแบนเนอร์โฆษณาที่ไม่ใช้แล้วของหลายหน่วยงาน ว่าเป็นตัวอย่างของการใช้ซ้ำที่สร้างความประทับใจได้ง่ายๆให้นักท่องเที่ยวในการหวนคิดทบทวนว่ามีอะไรง่ายๆอีกหลายอย่างที่ ทุกฝ่ายสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดการถนอมทรัพยากรได้ ทั้งยังควรขยายไปสู่การใช้น้ำอย่างประหยัด การลดก๊าซเรือนกระจกด้านการท่องเที่ยว ท้้งด้านการเดินทาง การจัดการที่พัก อาหาร และการใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์มากำกับกิจกรรม
สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หรือ TEATA ได้รับทุนวิจัยของแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข./PMUC) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว./TSRI) เพื่อวิจัยสร้างองค์ความรู้เรื่องการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิ (Carbon Neutral Tourism) มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนถึงระดับที่พร้อมนำผลผลิตจากการงานวิจัย เช่นโปรแกรมเส้นทาง เสนอขายแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศผ่านการร่วม Trade Show ในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับในระดับดีมาก บริษัททัวร์ชั้นนำจากต่างประเทศสนใจเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์หลายราย ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืนร่วมกัน
ภายใต้โครงการวิจัย “การยกระดับการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทยในเครือข่ายระดับโลก” ได้กำหนดการบริหารจัดการองค์กรภายใต้แนวคิด Destination Management Organization (DMO) หรือองค์กรจัดการจุดหมายปลายทาง ของ UN WTO
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรี มีศักยภาพในการต่อยอดเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยเพราะมีที่ตั้งที่เหมาะสม มีผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ชุมชน แหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย มีเรื่องราวด้านอาหารที่โดดเด่น พร้อมด้วยวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ มีความเหมาะสมต่อการยกระดับการท่องเที่ยวคุณภาพ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเพิ่มมูลค่า เพิ่มความน่าสนใจให้ประเทศไทย
และจะได้ใช้เครื่องมือ Application: ZERO CARBON ที่พัฒนาขึ้นโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ที่ก็ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข./PMUC)เช่นกัน
“องค์กรจัดการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์จังหวัดเพชรบุรี” (Carbon Neutral Tourism Destination Management Organization Model for Phetchaburi Province หรือ CNT-DMO Phetchaburi) นับเป็นต้นแบบ CNT-DMO แห่งแรกของไทย ภายใต้การบริหารจัดการแบบ Care Shareและ Fair อย่างสมดุล และต้องการให้เป็นเมืองต้นแบบด้านท่องเที่ยวลดโลกร้อนให้เป็นที่นิยมในไทย มุ่งหน้าสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป
สรุปผลงานของวุฒิสภา เรื่อง “5 ปี วุฒิสภากับผลงานเพื่อประชาชน”
วุฒิสภา จัดสัมมนาสรุปผลงานของวุฒิสภา เรื่อง “5 ปี วุฒิสภากับผลงานเพื่อประชาชน” ระหว่างวันที่ 21 - 22 มิถุนายน 2567 ณ โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี คณะกรรมการจัดสัมมนาสรุปผลงานของวุฒิสภา ในโอกาสวุฒิสภาครบวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี (พ.ศ. 2562 - 2567) จัดสัมมนาสรุปผลงานของวุฒิสภา เรื่อง “5 ปี วุฒิสภากับผลงานเพื่อประชาชน” โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “5 ปี วุฒิสภากับผลงานเพื่อประชาชน” และมีสมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยนางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมการสัมมนา
การสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น มุมมองประสบการณ์ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งประมวลผลงานการปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา ระหว่างปี 2562 - 2567 และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของวุฒิสภาในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ ภายในการสัมมนามีการเสวนา เรื่อง “ภารกิจของสมาชิกวุฒิสภาภายหลังครบวาระการดำรงตำแหน่ง” โดย ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา และมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “แสวงบทเรียน แลกเปลี่ยนความประทับใจ”โดย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา