กมธ.กีฬา ส.ว. มอบอุปกรณ์ออกกำลังกายให้ชุมชนบนเกาะปันหยี หวังอนาคตเป็นที่เก็บตัวนักกีฬานานาชาติ
โดย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา
25 กันยายน 2563 คณะกรรมาธิการกีฬาของวุฒิสภา นำโดย พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ พาคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการกีฬาชุดพลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา เข้าพื้นที่ จังหวัดพังงา เพื่อไปทำพิธีส่งมอบ อุปกรณ์การออกกำลังกาย เป็นชุดใหญ่ ที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้ช่วยจัดหามามอบเป็นสมบัติส่วนกลางของชุมชนบนเกาะปันหยี ในการนี้ นาวาตรีหญิง พญ.สุจิตตรา สวาทยานนท์นำส่งเครื่องกรองน้ำมาให้โรงเรียนเกาะปันหยีเป็นการสมทบเพิ่มให้อีกด้วย
ทำไมจึงมอบให้ที่เกาะปันหยี... เพราะที่เกาะปันหยีนี้ นับเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้มากทีเดียวครับ
เกาะปันหยี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ตั้งอยู่กลางอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งของไทย และของโลก ชุมชนบนเกาะเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ทั้งเกาะ แบบ 100% นี่ว่าตามที่กำนันบอกเล่า ตอนค้นอ่านจากเวปทางการ มีคำอธิบายว่าที่จริงแผ่นดินราบบนเกาะหินปูนนี้มีขนาดแค่ไร่เดียวเท่านั้นที่เหลือ เนื่องจากทะเลโดยรอบค่อนข้างตื้น ชาวบ้านจึงสร้างเรือนบนเสาที่ปักในทะเล ในฐานะชุมชนประมง
ประวัติของเกาะปันหยีย้อนไปถึงราวตันรัตนโกสินทร์ ชาวอินโดนีเซียแล่นสำเภาออกเสาะหาเกาะแก่งที่น่าจะสมบูรณ์พอจะตั้งถิ่นฐานได้ โดยตกลงกันว่าถ้าเจอเกาะอย่างนั้นแล้วก็ให้ปักธงแสดงตัวเอาไว้ คำว่าปันหยี ในภาษาอินโด มีความหมายว่า ธง บางแหล่งข้อมูลบอกว่าตรงกับชื่อของตัวละครในอิเหนา แม้จนวันนี้ ว่ากันว่าบางวัฒนธรรมที่ชาวอินโดนีเซียถ่ายทอดไว้ก็ยังหลงเหลืออยู่
แล้วมอบอุปกรณ์กีฬา การฝึกกีฬาเพาะกายมูลค่านับล้านบาทให้ไว้เพื่ออะไร ปรากฏว่า นักกีฬาเพาะกายเยาวชนทีมชาติไทยคนหนึ่งโตมาจากเกาะปันหยีครับ แต่เกาะปันหยีไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการฝึกกีฬาเพาะกายมาก่อน เมื่อสืบค้นลงไปจึงพบว่า ที่นี่มีวัฒนธรรมวินัยด้านสุขภาพตามหลักการแห่งศาสนาอิสลามที่น่าจะเป็นจุดเรียนรู้ และอนาคตยังอาจเหมาะเป็นที่เก็บตัวนักกีฬานานาชาติได้ด้วยเพราะเหตุว่า ที่นี่เป็นเกาะที่ประชากรหลักพันเท่านั้นและมีกติกาชุมชนที่เข้มงวดในการไม่ให้มีสาม "สุ" ขึ้นมาบนเกาะเลย คือ ห้ามนำ สุรา สุกรและสุนัข มาบนเกาะนี้
มีกิจกรรมละหมาดอย่างสม่ำเสมอตามเวลา มีสุเหร่าขนาดใหญ่เกินคิดบนเกาะที่มีแผ่นดินอยู่เพียงน้อยนิด บนเกาะมีร้านอาหารอร่อยเพียบ มีโรงเรียนอนุบาลถึงชั้นประถมขนาดย่อมของตนเอง และที่เก๋มากสุดคือมีสนามฟุตบอลขนาดย่อมประเภทลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลที่มีวิวดีที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย (ชมภาพ)
แปลว่าเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว มีอาหารทะเลเป็นเลิศ มีอากาศดีเยี่ยม มีทะเลฝั่งอันดามันที่สะอาดแต่ปราศจากคลื่นแรง เพราะอยู่ในอ่าวที่มีทั้งเกาะใหญ่น้อยล้อมรอบเป็นเสมือนทุ่งแห่งเกาะที่บังคลื่นให้ ขนาดที่สึนามิที่เคยกวาดภูเก็ต พังงาครั้งใหญ่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ปันหยีต้องมีอะไรแตกหัก มีเพียงระดับน้ำสูงขึ้นมากหน่อยก็เท่านั้น เพราะมีป่าชายเลนขนาดใหญ่ที่ให้ทั้งกำบังและอาหาร
และมีวัฒนธรรมประจำพื้นที่ที่ไม่มีอบายมุข มีทีมฟุตบอล 4 รุ่นอายุที่พร้อมเล่นเป็นทีมเหย้าให้ทุกทีมที่อยากมาเยือนเพื่อทดสอบความสนุกในการเล่นฟุตบอลบนทุ่นลอยกลางทะเล ทีมบางกอกยูไนเตด ก็เคยมาเล่นที่นี้แล้ว
ประชากรบนเกาะสนใจการออกกำลังกายสม่ำเสมอ กลุ่มแม่บ้านมุสลิมรวมตัวกันออกกำลังกายพร้อมเพลงประกอบของพื้นที่เอง แม้แต่แม่บ้านสวมฮิจาปอายุเกือบ 80 ก็ยังออกกำลังกายทะมัดทะแมงเข้าจังหวะกับทีมได้ยาวตลอดเพลง
เด็กนักเรียนหญิงอิสลามของที่นี่สามารถนุ่งโจงกะเบนแล้วฟ้อนไทยต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้อย่างคล่องแคล่ว สะท้อนให้เห็นความกลมกลืนของวัฒนธรรมผสมที่เลือกนำส่วนดี ส่วนแข็งแรงต่างๆมาผสมผสานใช้งานส่งเสริมชุมชน อย่างน่าประทับใจ
ที่นี่มีทั้งกุ้งมังกรเลี้ยงและกุ้งมังกรที่รับซื้อมาจากชาวประมงถิ่นให้เลือกทาน มีปลากระชังและมีความพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างน่าสนับสนุนลุ้นตาม มีทั้งอาหาร อากาศ อารมณ์ดี ออกกำลังกาย ครบตามสูตรที่ควรมี แถมกำลังจะมีเพิ่มอีก อ คืออนุรักษ์
กำนันของที่นี่กำลังชักชวนให้ชาวเกาะลดขยะพลาสติคโดยถ้าเป็นถุงพลาสติก และเศษพลาสติกเล็กๆที่เก็บมาได้ในทะเล จะเอาไปยัดใส่ขวดพลาสติกอีกที ทำอย่างนี้เป็นการสะสมไปเรื่อยให้มากพอ ก็จะนำมากระทุ้งอัดบีบให้กลายเป็นลูกเต๋าพลาสติกที่แข็งเป้ก แล้วใช้เป็นแกนไส้กลางลดทดแทนการใส่เหล็กเส้นมากมายในการหล่อเสาปูนความยาวถึง18เมตรที่ใช้ปักลงไปรองรับน้ำหนักสิ่งปลูกสร้างที่เกาะปันหยี
วิธีนี้กำนันเรียนรู้มาจากภูมิปัญญาประยุกต์จากชุมชนอื่นว่า เสาแบบนี้ใช้การได้ และไม่กลัวการกัดกร่อนของทะล แข็งแรง และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ที่นำเข้ามาใช้บนเกาะ และที่เก็บขึ้นมาจากขยะทะเลด้วย
พวกเราชาวกรรมาธิการกีฬา ของวุฒิสภาได้ทำพิธีส่งมอบอุปกรณ์ออกกำลังกายให้ชุมชนเกาะปันหยีแล้วก็กลับออกมาด้วยความนึกนิยมในองค์ประกอบที่ชาวเกาะปันหยีมี ที่จะพาให้เกาะปันหยียั่งยืนต่อไป ทั้งในด้านสุขภาพ และวินัยต่อการอยู่กับสภาพแวดล้อม
แม้ช่วงนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะจางตาไปมากจากเหตุเดินทางมาไทยยังไม่ได้เพราะช่วงโควิดของโลก
แต่วินัยในวัฒนธรรมชุมชนของปันหยีก็ดูจะสามารถประคองชุมชนเกาะปันหยีให้พอมีความสุข ไปได้ตามอัตภาพ
ที่โรงเรียน ที่ห้องเรียนต่างๆ ตลอดทั้งเมื่อมองเข้าไปในเรือนของชาวบ้านที่ปลูกเรียงรายใช้ทางเดินไม้เหนือน้ำทะเลร่วมกันไปตลอดทางนั้น
ผมสังเกตเห็นภาพพระมหากษัตริย์ทั้งที่แขวนไว้จนเก่าและที่เป็นภาพบนปฏิทินปีล่าสุด มีบทอาขยานและคำสอนที่เราก็ยังคงคุ้นเคยในการใช้ประกอบตามผนังห้องเรียนอย่างแพร่หลาย
เป็นการบอกชาวต่างประเทศที่มาเยือนให้เห็นดีเอ็นเอของวัฒนธรรมอันกลมเกลียวและเป็นมิตรไมตรีอย่างดี ที่ทุกคนคงความประทับใจทุกครั้งที่ได้กลับเข้ามาเยือน
และไม่แน่ พัฒนาไปเรื่อยๆจนมีระบบสากลรองรับที่อยู่ตัวพอ
ในวันข้างหน้า เราอาจมีเกาะปันหยีที่มีสโมสรกีฬาจากต่างแดนมาขอใช้เป็นที่เก็บตัวนักกีฬาเข้าสักวัน
ที่มา https://www.matichon.co.th/politics/news_2369595
-------------------------------------------------------------------------
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา
#weerasak.org
