ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

การท่องเที่ยวไทยเวลานี้ โดยให้โจทย์ #10YearChallenge

 

โดย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา 
 
ขอเกริ่นก่อนว่าอดีตเราเคยเป็นนักข่าวสายท่องเที่ยว เคยทำข่าวตั้งแต่สมัย อาจารย์เอ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อครั้งรอบปี 2551 ก่อนที่ท่านจะหวนคืนสู่เก้าอี้นี้อีกรอบ ด้วยเหตุนี้จึง อยากจะลองถาม (เสมือนเป็นนักข่าว) กับอาจารย์เออีกสักครั้งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยเวลานี้ โดยให้โจทย์ #10YearChallenge ตามกระแสสักหน่อยว่า รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มองภาพการท่องเที่ยวไทย 10 ปีที่ผ่านมา และ 10 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร 
คำตอบที่ได้คือ 10 ปีที่ผ่านมา เราวุ่นวายกับการไล่ล่าตัวเลข แต่ 10 ปีจากนี้เราต้องล่ารอยยิ้ม 
พอได้ยินคำตอบนี้ ไม่แปลกใจนักกับนิยามการไล่ล่าตัวเลข เพราะที่ผ่านมาเราเห็นการตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตทุกปี เห็นทุกมาตรการหวังผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้โต ซึ่งก็โตจริง จากปี 2551 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 14.58 ล้านคน สร้างรายได้ 5.74 แสนล้านบาท 
หันมาดูตัวเลขล่าสุด สิ้นเดือน พ.ย.2561 แค่ 11 เดือนจำนวนนักท่องเที่ยวก็แตะ 34.43 ล้านคนแล้ว โกยรายได้ไปประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มเกินกว่าเท่าตัวจาก 10 ปีก่อนแล้ว 
รมว.วีระศักดิ์ ยังขยายความการเปลี่ยนแปลงของท่องเที่ยว 10 ปีที่ผ่านมาว่า “เราเชื่อว่าคนไทยค่อนข้างตระหนักแล้วว่าถ้าโครงสร้างพื้นฐานไม่ขยายไปกว่านี้ เรากำลังเข้าใกล้จุดสำลักแล้ว เกาะหลายแห่งสำรอกแล้วด้วยซ้ำ เมืองใหญ่เองก็เริ่มไม่อยากกวักมือแรงๆ เพราะมาแล้วท้องตึง ย่อยไม่ไหว แล้วเวลามีไข้ จากความไม่ประทับใจก็จะแก้ได้ยากและช้า” 
นี่ก็เป็นคำตอบที่สะท้อนว่า ไทยน่าจะอิ่มตัวจากการกวาดต้อนจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ แต่โครงสร้างพื้นฐานที่มี ทรัพยากรที่ใช้ ต่อให้ขยายไปมากกว่านี้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้ายังเน้นที่จำนวน แล้วนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์อันเลวร้ายกลับไป 
เมื่อให้มอง 10 ปีข้างหน้าท่องเที่ยวไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป รมว.วีระศักดิ์ ขยายความภารกิจล่ารอยยิ้มว่า เราต้องล่ารอยยิ้มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเปรียบเสมือนแขกที่มาเยือนบ้าน เช่นเดียวกับที่เราต้องล่ารอยยิ้มของตัวเองในฐานะเจ้าบ้านให้พร้อมต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่มาเยือน 
ถ้าให้มองไปถึงสิ่งรอบตัวที่จะพัฒนาและเอื้อต่อการท่องเที่ยว รมว.วีระศักดิ์ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพใกล้ขึ้นมาอีกแค่ 5 ปีข้างหน้าว่า รถไฟฟ้าสารพัดสีในกรุงเทพฯ คงจะออกมาแล่นให้บริการกันหมดแล้ว ส่วนรถไฟรางคู่ส่วนใหญ่ก็น่าจะแล่นแล้วเช่นกัน ขณะที่รถไฟความเร็วสูง เวลานั้นคงกำลังเริ่มทดสอบอยู่ โดยรวมก็แปลว่า คนเดินทางจะสะดวกกว่าใช้รถและเครื่องบินมาก 
เมื่อไปดูถึงสนามบินเมืองรอง เวลานั้นก็คงขยายความยาวของรันเวย์ได้เรียบร้อย พร้อมรองรับผู้เดินทางได้มากขึ้นแล้ว ส่วนอาคารผู้โดยสารใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินอู่ตะเภา สุวรรณภูมิ หรือแม้แต่การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารที่ดอนเมืองคงใช้การได้แล้ว ทั้งหมดนี้แปลว่าความสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวจะดีขึ้น และน่าจะส่งต่อนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปสู่เมืองรองได้มากขึ้นอีกระดับ 
หากการท่องเที่ยวกระจายตัวไปเมืองรองได้มากขึ้นตามคาด ก็จะลดความแออัดของนักท่องเที่ยวที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลักได้ แถมยังเพิ่มโอกาสเมืองรองสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น เพราะเวลานั้นนักท่องเที่ยวจะเข้าถึงทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองได้ง่ายขึ้น มีต้นทุนต่ำลง ทั้งต้นทุนเวลารอเดินทาง และต้นทุนค่าใช้จ่าย และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง บัณฑิตใหม่และคนที่เคยมาดิ้นรนอยู่ในเมืองหลวง เมืองใหญ่ก็คงจะพร้อมเดินกลับไปสู่ภูมิลำเนาอย่างภาคภูมิใจ เพราะอยากกลับไปสร้างกิจการเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยว รับโอกาสดีๆ ด้านท่องเที่ยวที่มากขึ้น 
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) จะมีพลังทางเศรษฐกิจแกร่งขึ้นมาก และคงจะรู้สึกว่าไทยเป็นมิตรที่น่าคบกว่าที่คาดไว้ เพราะเมื่อรถไฟระหว่างประเทศเริ่มเดินเครื่อง จะทำให้สินค้าต่างๆ จากไทยเดินทางไปถึงเพื่อนบ้านได้ในราคาถูกลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 
นอกจากนี้เชื่อว่าเวลานั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จะเดินคู่ขนานไปกับการมีสัญญานอินเทอร์เน็ตที่เสถียรขึ้น ดังนั้นก็จะตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น 
สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างดีขึ้น ทันสมัยขึ้น 10 ปีข้างหน้า นอกจากเราต้องไล่ตามความทันสมัยเหล่านี้แล้ว อีกสิ่งที่คนในภาคท่องเที่ยวและทุกคนในประเทศต้องตระหนักคือ เราต้องช่วยกันบริหารจัดการจุดหมายปลายทางของเราให้ดีด้วยรับมือกับความเจริญที่เข้ามา ไม่เช่นนั้น ปัญหาน้ำทิ้ง ขยะ และฝุ่น ก็จะกระจายไปตามความทันสมัยเหล่านั้นเช่นกัน
 
และนี่คือคำตอบ #10YearChallenge ในแบบฉบับของรมว.วีระศักดิ์ ที่ให้มา
หากครั้งหน้ามีเวลาว่าง เราก็คงจะหยิบคำตอบเรื่องอื่นมาเล่าสู่กันฟังอีก 
ที่มา https://www.blockdit.com/posts/5c4725901d30a04fb20a6e52
-------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวข่าวสาร วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เพิ่มเติมผ่านสื่อโซเชี่ยลได้ที่
Web: www.weerasak.org
-------------------------------------------------------------------------