ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org

เว็บไซต์วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ www.weerasak.org
มีความมุ่งมั่นเเละตั้งใจในการเผยแพร่เรื่องราวความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์สังคมด้วย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมกฎหมายและการปกครอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป
มองโลก มองความยั่งยืน
จบปริญญาโท กฎหมายสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อดีตสมาชิกในบ้านพิษณุโลกมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีประสบการณ์พัฒนานโยบายสาธารณะมาต่อเนื่อง เป็นนักกฎหมายที่เชื่อมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นเเละมีอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์สังคมที่มีความเท่าเทียม การพัฒนาประเทศไทยให้มีความทันสมัย เจริญเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

ร่วมกิจกรรม อาสา นศ. แรงงานข้ามชาติพิทักษ์ป่าชายเลน…

ผมเพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมชมป่าชายเลนลุงนรินทร์ หรือชื่อเต็ม คือ ศูนย์​การเรียนรู้และปฏิบัติการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาชัย ตำบลโคกขาม สมุทรสาคร ไปติดตามดูการใช้ทรัพยากรที่ดินติดป่าชายเลนที่ราษฏรเจ้าของโฉนดเดิมยกให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครเมื่อนานมาแล้ว ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์ป่าชายเลนกับไปดูผลของการสะสมตะกอนเลนริมฝั่งด้วยการใช้แนวกำแพงไม้ไผ่ปักไว้ในทะเล ซึ่งนับว่ามีผลที่น่าพอใจ

มีหลายกลุ่มกิจกรรมมาสนับสนุนการปลูกป่าชายเลนที่นี่ มีผู้มาเรียนรู้ธรรมชาติของสัตว์บก เช่น ลิง ศึกษาสัตว์น้ำอย่างโลมา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง นกบก นกทะเล และนกอพยพที่นี่ต่อเนื่องมากว่า 20 ปี 

ป่าชายเลนที่นี่แม้ผืนไม่ใหญ่มหึมา แต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ตามแบบฉบับผู้ดูแลสถานที่นี้คือลุงนรินทร์ บุญร่วมอาสาสมัครจากชุมพร ท่านย้ายมาเป็นทั้งวิทยากร เป็นคนเพาะกล้าโกงกางไว้ปลูกเพิ่ม เป็นคนเฝ้าดูแลต้นไม้ในป่าชายเลน เป็นคนระดมชาวบ้านและห้างร้านที่พอรู้จักเข้ามาช่วยกันอนุรักษ์ชายฝั่ง และระบบนิเวศน์ของที่นี่

ผมเดินสำรวจเสร็จก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว เหมารถหกล้อเล็กเข้ามาที่ศูนย์แห่งนี้ 2 คันรถ ราว 70 คน ทราบว่าเป็นอาสาสมัครนักศึกษา ชาวพม่ามอญ เป็นส่วนใหญ่กับเป็นนักศึกษากัมพูชา1คน ที่ปกติในวันธรรมดาทุกคนมีอาชีพเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมห้องเย็นและแปรรูปสินค้าประมงแช่แข็งที่สมุทรสาคร ทุกคนเพิ่งเสร็จจากการเรียนวิชาภาษาไทยในภาคเช้าวันอาทิตย์ แต่งกายในเครื่องแบบนักศึกษาอย่างสง่างาม น้อง ๆ นักศึกษาอายุราว 22-24 ปี ช่วยกันขนน้ำดื่มบรรจุขวดลงมาหลายแพค แล้วเข้านั่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อย รอพรรคพวกที่ทะยอยวางสัมภาระที่อาคารฝึกอบรม

ในคณะนี้เขามีครูผู้สอนภาษาไทย ซึ่งก็เป็นชาวพม่าเช่นกัน แต่จะใส่เสื้อสีเหลือง เพื่อช่วยทำหน้าที่เป็นผู้บริหารการสื่อภาษาระหว่างคณะนักศึกษา กับเจ้าหน้าที่เครือข่ายแนวร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลนและสิ่งแวดล้อมสมุทรสาครซึ่งมากันในนาม UrbanAction Samutsakorn +มูลนิธิ LPN และ มูลนิธิMMC (Mingkalaba Myanmar Education Training Center ) +เครือข่าย United Solidarity Alliance หรือ เครือข่ายพันธมิตรทางสังคมเพื่อสันติภาพแรงงานข้ามชาติ และเครือข่ายทางสังคมแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาร์ในประเทศไทย Migrant Labour Group มาช่วยอำนวยความสะดวก ผมและ นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยว ซึ่งขับรถมาด้วยกัน จึงเข้าไปนั่งฟังการบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่ร่วมกับน้อง ๆไปด้วย

คุณโทนี่ ช่อสุวรรณ นักธุรกิจในสมุทรสาคร ที่มาช่วยสนับสนุนกิจกรรมเล่าว่าน้องๆ หลายคนในกลุ่มนี้เคยมาช่วยทำกิจกรรมเก็บขยะในป่าชายเลนที่นี่และหลายคนเคยมาช่วยคัดแยกขยะ หรือเคยมาทำความสะอาดขวดแก้วก่อนการคัดแยก เพื่อส่งมอบให้เทศบาลพื้นที่รับไปดำเนินการต่อ บางคนเคยทำอย่างนี้มาราว 6-8 ครั้งแล้ว

กิจกรรมนี้เก็บขยะทะเลจากป่าชายเลนขึ้นมาสะสมไว้รอคัดแยกจะเป็นพันกิโลกรัมกันอยู่แล้ว ผมจึงขึ้นกล่าวแสดงความชื่นชมและขอบคุณน้องๆนักศึกษาแรงงานข้ามแดนเหล่านี้ผ่านล่ามของกลุ่ม 

คุณผู้อ่านครับ น้อง ๆ เหล่านี้หลายคนเกิดในประเทศไทย ทุกคนทำงานชำแหละปลา แกะกุ้ง แพ้คสินค้าอาหารในโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำที่มหาชัย สัปดาห์ละ 6 วัน มีวันพักผ่อนวันเดียวคือวันอาทิตย์ แต่ด้วยรักจะมีการศึกษา จึงแห่กันไปเข้าชั้นเรียนภาษาไทยหรืออังกฤษทุกเช้าวันอาทิตย์ เสร็จแล้วออกเงินร่วมกันเหมารถมาทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น จบกิจกรรมแล้วจะไปทานอาหารกลางวันร่วมกันแล้วไปทัศนศึกษา หรือไปไหว้พระกันต่อช่วงบ่าย ก่อนแยกย้ายในช่วงเย็นเพื่อเตรียมตัวเริ่มงานในสัปดาห์ใหม่

น้องๆ มากันในชุดนักศึกษาสีขาว สะอาดเอี่ยมทุกคน นับว่าน่าชื่นชมมาก แม้น้องจะต้องคอยระมัดระวังเสื้อผ้าไม่ให้เลอะเทอะจากกิจกรรมที่มีทั้งลุยเข้าป่าชายเลนไปเฟ้นหยิบขยะออกมาจากเลนตมเพื่อใส่กระสอบ นำออกมาส่งบ้างก็ไปทำหน้าที่เทของในกระสอบออกมาคัดแยก เพื่อจำแนกประเภทบ้างไปนั่งล้อมกะละมังใส่น้ำขนาดใหญ่เพื่อทำหน้าที่ขัดล้างขวดแก้วและขวดพลาสติกให้สะอาดจากคราบโคลนเลนอย่างคล่องแคล่ว

ผมและผู้ช่วยรัฐมนตรีวรวิทย์ เห็นแล้วอดไม่ไหวต้องขอกระโดดเข้าร่วมกิจกรรมไปด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิและเครือข่ายจัดแจกถุงมือสำหรับใช้ทำกิจกรรมในแต่ละฐาน เราใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงก็พัก ไปล้างมือไม้ แล้วกลับขึ้นรถเพื่อไปทานอาหาร และทำสันทนาการกันต่อ แม้วันนั้นจะเหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆ กัน และยังสื่อสารกันได้ด้วยข้อจำกัดด้านภาษา แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความสุขใจของทุกฝ่ายที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆอย่างนี้ กิจกรรมที่ทำให้เราเห็นศักดิ์ศรี เห็นความเสียสละเป็นหมู่คณะ ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้แรงงานวัยกระเตาะ ที่ยังพูดไทยไม่ถนัด แต่รักสังคมส่วนรวม รักธรรมชาติ รักพวกพ้อง รักวัฒนธรรมของชนชาติ รักสงบ และรักจะมีความรู้ และความก้าวหน้า พากันออกมาทำกิจวัตรที่แม้ไม่มีการแปลเป็นภาษา

แต่กลับเป็นสิ่งที่เป็นสากลยิ่ง น่าประทับใจโดยไม่ต้องแปลเลย จริง ๆ ครับ

วีระศักดิ์โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา